ปลอกเปลือก ‘อิ๊งค์’ ดีเอ็นเอ ‘ทักษิณ’ เงา ‘พจมาน’

‘อิ๊งค์’ ทายาทคนสุดท้อง ‘ทักษิณ-พจมาน’ มีเดิมพันสูง ล้างภาพพรรคขวาใหม่ ดึงเพื่อไทยกลับมาหัวหอกฝ่ายประชาธิปไตย

หลังเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ต้นปี 2565 อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อสำนักหนึ่งว่าด้วยการแนวทางการสร้างพรรคเพื่อไทยโฉมใหม่

“เราอยากให้มีดีเอ็นเอของพรรคไทยรักไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ในเวอร์ชั่นใหม่ ที่มีนวัตกรรมต่างๆ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได้เพื่อพัฒนาพรรคอย่างเดียว แต่เพื่อพัฒนาประเทศได้ หรือก้าวไปในระดับโลกได้”

ทักษิณ ชินวัตร เคยยืนยันเรื่องดังกล่าวนี้ว่า “ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทย ซึ่งมาจากพรรคไทยรักไทย มีดีเด็นเอที่ชัดเจน คือเป็น solution provider โดยเฉพาะอย่างเรื่องความเป็นอยู่ เรื่องคุณภาพชีวิตของคนไทย”
 

ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงแตกต่างจากพรรคก้าวไกล ในแง่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจปากท้องมากกว่าการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง

เมื่ออิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนที่ 8 จึงมองกันว่า นี่คือแผนกระชับอำนาจของคนตระกูลชินวัตร และเตรียมตัวจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า หรือเกิดอุบัติเหตุการเมือง หากนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้ไปต่อ  

ดีเอ็นเอของพ่อ

ในหนังสือ THAKSIN SHINAWATRA Theory and Thought เป็นผลงานเล่มที่ 3 ของสามพี่น้อง โอ๊ค เอม อิ๊งค์ ช่วยกันทำออกมาขายเมื่อปีที่แล้ว 

ทักษิณบอกว่า โอ๊ค พานทองแท้ ลูกชายคนโตจะเป็นคนที่ถูกสปอยล์มากที่สุด เพราะความเห่อลูกคนแรก แม้โอ๊คจะชอบการเมืองและมีความเข้าใจการเมืองไทย แต่ลูกชายมีความเป็นศิลปินสูง จึงไม่เหมาะที่จะเล่นการเมือง

ส่วนลูกสาว 2 คน คุณหญิงพจมาน จะเลี้ยงดูแบบเข้มงวดมาก แต่อิ๊งค์จะเป็นคนที่อยู่กับพ่อมาตั้งแต่ยังเด็กๆ เวลาไปไหนก็เอาไปด้วย

“อิ๊งค์ เขาใกล้ชิดผม บางทีคนเรานะ การได้พูดออกมา มันเหมือนกับการทบทวนให้ตัวเอง ผมก็พูดกับลูกดีกว่าพูดคนเดียว..แล้วการพูดคนเดียวมันเหมือนคนบ้า เลยพูดกับลูกที่ดีที่สุด อิ๊งค์เขาเลยจำที่ผมพูดได้หมด” ทักษิณเล่าถึงการรับบทโค้ชการเมืองให้ลูกสาวแบบไม่รู้ตัว

ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นอิ๊งค์ พูดจาฉะฉาน ปราศรัยทางการเมืองคล่องแคล่ว และมีไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามนักข่าว

อิ๊งค์เห็นพ่อเข้าสู่สนามการเมือง ในวัย 8 ปี ตอนนั้น ทักษิณ ตัดสินใจเล่นการเมืองครั้งแรกปี 2537 โดยเข้ารับตำแหน่ง รมว.ต่าง ประเทศ    

สมัยทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ได้ทำโฆษณาหาเสียงแก้ ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ โดยมีคำโฆษณาว่า “ผมจะไม่ยอมเห็นลูกหลานของเรา นอนในรถ กินในรถ โตในรถ..อีกต่อไป” พร้อมมีภาพทักษิณยืนกอด ด.ญ.แพทองธาร อยู่ในโฆษณาชิ้นนั้นด้วย

 
ปี 2542 ทักษิณก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และเริ่มออกเดินสายไปขายความคิดการเมืองใหม่ทั่วประเทศ ตอนนั้น อิ๊งค์อายุ 12 ปี พ่อพาเธอไปที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก

ชาวบ้านบางกระทุ่ม มีการรวมตัวทำกล้วยตากขาย เมื่อทักษิณพาลูกสาวไปดูหมู่บ้านทำกล้วยตาก จึงพบกองเปลือกกล้วยราดด้วยน้ำอีเอ็ม เพื่อให้เปลือกกล้วยเน่า แล้วจะได้เอามาทำปุ๋ย ตอนนั้น เปลือกกล้วยเน่าส่งกลิ่นเหม็นมาก

“มันเหม็น เราไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อน พ่อคงเห็นว่าเราเป็นเด็กจิ๋ว คิดว่าเราจะออกอาการ แต่เราก็นิ่งๆ ตอนกลับออกมา พ่อก็ถามว่าไม่เหม็นเหรอลูก เราก็บอกว่าเหม็นค่ะ แต่ไม่กล้าทำท่าเหม็น เดี๋ยวคนที่หมู่บ้านจะเสียใจ” อิ๊งค์เล่าเหตุการณ์ในวันนั้น 

ทักษิณภูมิใจในตัวลูกสาวคนเล็กมาก “ผมไม่เคยสอน เขาเห็นว่าเราไปทำงานการเมือง เราต้องไปพบประชาชน เราต้องมีความอดทน ต้องมีความเข้าใจเขา เขา observe เอาเอง”

ผู้นำแบบแม่
 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 พรรคเพื่อไทยจัดงานพรุ่งนี้เพื่อไทย ที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

วันนั้น อิ๊งค์ได้ขึ้นเวทีพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรก ได้นำเสนอแนวคิดการเมืองใหม่ๆ และนโยบายของพรรค ซึ่งทักษิณนั่งดูไลฟ์จากขอนแก่นอยู่ในต่างแดน รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวเป็นอย่างมาก

“อิ๊งค์เขาได้ดีเอ็นเอผมกับแม่ เขาเข้มแข็งเหมือนแม่ มีความเป็นผู้นำและมีความกล้า” ทักษิณกล่าว

ตอนนั้น ทักษิณมั่นใจว่า ลูกสาวแข็งแรงแล้ว พร้อมจะเดินไปบนถนนการเมือง แต่ต้องเพิ่มชั่วโมงบินในการรู้จักคน เนื่องจากคนการ เมืองกับคนในบริษัท ไม่เหมือนกัน

“การเมือง มันเต็มไปด้วยคนที่มีอีโก้ คนละแบบมารวมกัน เหมือนมีมือแซกโซโฟน มือกลอง มือทรัมเป็ต มารวมกันตัวให้เขาเล่นเพลงเดียวกันให้ได้ เพราะต่างคนต่างเข้าไปในฮอลล์ คนนั้นก็เป่า คนนี้ก็ตี จะทำยังไงให้เขาเล่นเพลงเดียวกัน แล้ว conduct ให้มันมี harmony ด้วยกันกลมกลืนกัน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็น art and science ในตัวที่ต้อง handle” 

ทักษิณในฐานะครูใหญ่หรือโค้ช แนะนำลูกสาวไว้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง อิ๊งค์ในฐานะคอนดักเตอร์ ต้องควบคุมจังหวะ และควบคุมนักการเมืองให้บรรเลงเพลงเดียวกัน นี่เป็นโจทย์ยากของเธอ

โฉมหน้าทีมอิ๊งค์

ดังนั้น อิ๊งค์ แพทองธาร จึงต้องสรรหานักดนตรีที่จะร่วมวงออร์เคสตร้าของเธอด้วยตัวเธอเอง ไม่แปลกที่กลุ่มผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ชุดใหม่ จะเป็นคนที่อิ๊งค์รู้จักมักคุ้น และผู้ใหญ่ที่สนิทสนมช่วยแนะนำ

คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ทั้งรองหัวหน้าพรรค, เลขาธิการพรรค, รองเลขาธิการพรรค, เหรัญญิก, นายทะเบียนพรรค และกรร การบริหารพรรค มาจากคน 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มมาดามแจ๋น-รองอ้วน ได้แก่ สรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว , ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.    เลย , ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ, เผ่าภูมิ โรจนสกุล, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ,ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ฯลฯ

กลุ่มนักการเมืองมีประสบการณ์ อาทิ ชูศักดิ์ ศิรินิล,จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ , จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.

กลุ่มลูกหลานบ้านใหญ่ ได้แก่พชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา, โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย สส.ชัยภูมิ, วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี ,นิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา, สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น ฯลฯ

พ.ศ.นี้ อิ๊งค์ไม่ได้เป็นแค่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่เธอเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คำว่า ดีเอ็นเอทักษิณ จะปั้นพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนพรรคไทยรักไทย ได้หรือไม่ น่าติดตามยิ่ง