9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

ส่อง 9 จังหวัด “แชมป์ สว.” เทียบเคียงฐานการเมือง “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน” ช่างเป็นเรื่องบังเอิญสุดพิสดาร สะท้อนภาพวัฒนธรรมบ้านใหญ่ ยังยืนยง

นับจากนี้ไป ได้เวลาปิดฉาก “สว.ลากตั้ง” โดย คสช. เข้าสู่ยุค “สภาสูงบ้านใหญ่” ตอบโจทย์ขั้วอนุรักษนิยย ฝันร้ายของขั้วประชาธิปไตย 

วลี “สว.สีน้ำเงิน” ร้อนแรง กระทั่ง อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเองไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวการเลือก สว.เลย ยุ่งอย่างเดียวคือกลไกของกระทรวงมหาดไทยในการเลือกรอบแรกในระดับอำเภอ”

ข้อมูลการเลือก สว.ที่เพิ่งจบไป พบว่า มี 12 จังหวัดที่มี สว. มากที่สุด (รวมจังหวัดที่มี สว. เท่ากัน) ได้แก่ บุรีรัมย์ 14 คน ,

กทม. 9 คน

พระนครศรีอยุธยา, สุรินทร์ จังหวัดละ 7 คน

สงขลา, สตูล และอ่างทอง จังหวัดละ 6 คน

นครศรีธรรมราช, เลย, ศรีสะเกษ, อำนาจเจริญ และอุทัยธานี จังหวัดละ 5 คน

หากตัดสนามเมืองหลวงออกไป แล้วสแกนพื้นที่ 11 จังหวัด พบว่าส่วนใหญ่เป็นที่มั่นการเมือง ของพรรคภูมิใจไทย ยกเว้น สงขลา และนครศรีธรรมราช

เมื่อสแกนลึกลงไปใน 9 จังหวัด ที่มี สว.ติดอันดับท็อปเท็น พบว่า ทั้งการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ ตกอยู่ในเครือข่าย “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

บ้านใหญ่เซราะกราว

3 จังหวัดอีสานใต้ มี สว.รวมกันทั้งสิ้น 26 คน เฉพาะบุรีรัมย์ 14 คน กลายเป็น ดราม่า สว.เซราะกราว มีคนพูดถึงในโซเชียลสนั่นเมือง

บังเอิญว่า 3 จังหวัดอีสานใต้ เป็นที่มั่นการเมืองของภูมิใจไทย จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ

นับแต่การเลือกตั้งปี 2562 ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่า บุรีรัมย์ คือเป็นเมืองหลวงภูมิใจไทย ซึ่งการเลือกตั้ง สส.ปีที่แล้ว พรรคสีน้ำเงินกวาดยกจังหวัด 10 ที่นั่ง

สุรินทร์ บ้านเกิดปู่ชัย ชิดชอบ กลุ่มเพื่อนเนวิน พยายามเอาชนะพรรคเพื่อไทยมา 2 สมัย ไม่สำเร็จ ได้ สส.คนเดียวคือ ปกรณ์ มุ่งเจริญพร สายตรงบ้านใหญ่เซราะกราว

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

สมัยที่แล้ว ภูมิใจไทยประสบความสำเร็จ ได้ สส.สุรินทร์ 5 ที่นั่ง จากทั้งหมด 8 ที่นั่ง ลดทอนอิทธิพลพื้นที่สีแดงลงไปได้เยอะ

สำหรับ พรชัย มุ่งเจริญพร นายก อบจ.สุรินทร์ อยู่ในเครือข่ายกลุ่มเพื่อนเนวิน และความสำเร็จของภูมิใจไทย เมืองช้าง ก็ต้องให้เครดิตทีม อบจ.สุรินทร์  

ศรีสะเกษ ในภาพรวม สส.ยังถือว่า เพื่อไทยครองแชมป์ แต่ภูมิใจไทยก็ยังมี สส. 2 ที่นั่ง ส่วนการเมืองถิ่นอยู่ในมือเครือข่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงิน มายาวนาน

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ 5 สมัย บิดาของ ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย(อนุทิน ชาญวีรกุล) ยังเป็นศูนย์กลางบ้านใหญ่ศรีสะเกษ 

บ้านใหญ่เมืองอำนาจ

จ.อำนาจเจริญ หัวเมืองชายฝั่งโขง ที่แยกตัวออกมาจาก จ.อุบลราชธานี แต่ได้ สว.มากถึง 5 คน ขณะที่เมืองอุบลฯ ได้ สว.แค่ 2 คน

ในมิติทางการเมือง อำนาจเจริญ กลายโมเดล สส.เสาเข็ม ของครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ เพราะ เจ๊รวย-สุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ ใช้เวลา 4 ปี ยึดอำนาจเจริญได้เบ็ดเสร็จ ทั้งการเมืองท้องถิ่น และระดับชาติ

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

เลือกตั้งปีที่แล้ว ภูมิใจไทย กินรวบ 2 ที่นั่ง สส.อำนาจเจริญ และวันเพ็ญ ตั้งสกุล นายก อบจ.อำนาจเจริญ ก็เป็นสายตรงเจ๊รวย

ทุกวันนี้ เจ๊รวย เป็นคนโปรดของครูใหญ่เนวิน เพราะการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา เจ๊รวย ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ อำนาจเจริญ ,ยโสธร และอุบลราชธานี ปรากฏว่า พรรคสีน้ำเงิน ได้สส.ได้มากถึง 6 ที่นั่ง 

บ้านใหญ่วังน้อย

จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ สว.มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศคือ 7 คน เท่ากับ จ.สุรินทร์ ก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีคนพูดถึงเยอะ ทำไม สว.จึงกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเก่า

มิหนำซ้ำ นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล อดีต สว.อยุธยา ปี 2543 น้องชายสมทรง พันธ์เจริญวรกุล อดีตนายก อบจ.อยุธยา ก็ได้รับเลือกเป็น สว.ชุดใหม่ด้วย

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

“ซ้อสมทรง” หรือ สมทรง พันธ์เจริญวรกุล อำลาค่ายเพื่อไทย และจับมือ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต สส.อยุธยา ปักธงภูมิใจไทยกรุงเก่า ตั้งแต่ปี 2562

ปีที่แล้ว ซ้อสมทรงพลาดเป้าไป 2 เขต แต่ก็ได้ สส. 3 ที่นั่ง แต่ก็ส่งลูกชาย สุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล เป็น รมช.ศึกษาธิการ สมใจบ้านใหญ่วังน้อย

ซ้อสมทรง เพิ่งลาออกจากนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา และลงสนามอีกสมัย คาดว่า ซ้อบ้านใหญ่วังน้อย จะเป็นนายก อบจ.กรุงเก่า สมัยที่ 5

บ้านใหญ่วิเศษชัยชาญ

จ.อ่างทอง มีประชากรน้อยกว่า จ.สุพรรณบุรี แต่เลือก สว.เที่ยวนี้ อ่างทองได้ สว. 6 คน แต่เมืองสุพรรณ ได้ 3 คน

ตระกูลปริศนานันทกุล ยึดการเมืองอ่างทอง ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ มาแต่สมัยที่ยังสังกัดพรรคชาติไทย กระทั่งย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย 

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เติบโตมาในตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จบรัฐศาสตร์บัณฑิต รามคำแหง เมื่อเรียนจบก็มาช่วยพี่เขยทำโรงสี

เฮียตือ-สมศักดิ์ แต่งงานกับรวีวรรณ ลูกสาวเจ้าของโรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ และการได้เป็นลูกเขยเศรษฐีอ่างทอง ทำให้เฮียตือ มีต้นทุนพอที่จะก้าวสู่สนามการเมือง

สมศักดิ์ ก่อตั้งกลุ่มสำนักรักบ้านเกิด ดันกำนันตี๋-สุรเชษ นิ่มกุล เป็นนายก อบจ.อ่างทอง 2 สมัย และล่าสุดเพิ่งได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.สมัยที่ 3 แบบไร้คู่แข่ง

ส่วนลูกชายเฮียตือ บอล-ภราดร ปริศนานันทกุล และแชมป์-กรวีร์ ปริศนานันทกุล เป็น สส.อ่างทอง ทั้ง 2 เขต

บ้านใหญ่โกเกี๊ยะ-โกเกียรติ

จ.สตูล เล็กกว่า จ.สงขลา หลายเท่า แต่การเลือก สว.ปี 2567 สตูล กลับมี สว. 6 คน เท่ากับสงขลา

30 ปีที่แล้ว กลุ่มเรือประมงย่านน่านน้ำอันดามัน ย่อมรู้จักบริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด บริหารโดย 3 พี่น้องคือ โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ ,โกโต-พิบูลย์ รัชกิจประการ และโกนั้ง-พิทักษ์ รัชกิจประการ

9 จังหวัดแชมป์ “สว.67” ทาบที่มั่น “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน”

เมื่อโกเกี๊ยะ พิพัฒน์ ตัดสินใจเล่นการเมือง โดยรับอาสา เนวิน ชิดชอบรับผิดชอบสนามปักษ์ใต้ จึงเริ่มต้นที่บ้านเกิด-สงขลา และสตูล 

สตูล เป็นฐานธุรกิจน้ำมันและเดินเรือของโกเกี๊ยะ เมื่อหันมาลุยการเมืองระดับชาติ โกเกี๊ยะ จึงจับมือกับ โกเกียรติ-สมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ บ้านใหญ่สตูล สร้างที่มั่นการเมืองชายฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ปี 2562

ปัจจุบัน ค่ายภูมิใจไทย มี สส.สตูล 2 คนคือ พิบูลย์ รัชกิจประการ น้องชายของโกเกี๊ยะ และ วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ลูกชายของโกเกียรติ

ทั้งหมดนี้คือ ภาพรวม 9 จังหวัดที่มี สว.มากที่สุด เทียบเคียงกับฐานข้อมูลการเมือง “บ้านใหญ่” ในจังหวัดดังกล่าว และไม่น่าแปลกใจที่มีวลี “สว.สีน้ำเงิน” ดังระบือลือลั่นในชั่วโมงนี้