ผ่าสมรภูมิ อบจ. นคร 'สะสมทรัพย์' รากลึก 'ระบอบบ้านใหญ่' คงกระพัน

จาก “พะเยาว์” ถึง “จิรวัฒน์” กว่า 2 ทศวรรษ “กลุ่มชาวบ้าน” ใต้ร่มเงา ไชยา สะสมทรัพย์ ยึด อบจ.เมืองเจดียใหญ่

สถานการณ์การเลือกตั้งนายก อบจ.นครปฐม ปี 2568 ค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้สมัครนายก อบจ. 2 คน ก็เหมือนมีผู้สมัครคนเดียวคือ “เสี่ยหนึ่ง” จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ สังกัดกลุ่มชาวบ้าน

ส่วน สมพร ภพักตร์จันทร์ ในนามผู้สมัครอิสระ แทบไม่โผล่หน้ามาหาเสียง ซึ่ง สมพร เป็นอดีตนายก อบต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน 

ที่สำคัญ พรรคประชาชน ที่มี สส.นครปฐม 2 คน และแชมป์ สส.บัญชีรายชื่อ กลับไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. และส่งสมาชิกสภา อบจ.เพียง 17 เขต

ขณะที่ พเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ.นครปฐม 4 สมัย บ้านใหญ่ริมบึง 99 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม ก็วางมือและหันมาหนุนลูกชายเจ้านายเก่า-ไชยา สะสมทรัพย์

ย้อนไปดูผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครปฐม ปี 2563 จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ กวาดไปได้ 285,051 คะแนน ตามมาห่าง ๆ พเยาว์ เนียะแก้ว ได้ 90,330 คะแนน และ ชัชวาล นันทะสาร คณะก้าวหน้า 74,868 คะแนน

ความปราชัยแบบไม่ได้ลุ้นของค่ายส้ม ทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ ไม่มีใครอาสาลงสนามปะทะบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ 

บทเรียนความพ่ายแพ้ในสนามนายก อบจ.ราชบุรี สอนให้แกนนำส้มรู้ว่า ถึงจะเป็นแชมป์ สส.บัญชีรายชื่อ ก็ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น

กลุ่มชาวบ้าน-ที่มั่นบ้านใหญ่  

กลางปี 2563 ก่อนเสียชีวิต “เสี่ยอ้อน” ไชยา สะสมทรัพย์ ได้ผลักดันให้ “เสี่ยหนึ่ง” จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ ลูกชายคนโต รับมรดกการเมืองท้องถิ่นคือ “กลุ่มชาวบ้าน” 

ไชยา ก่อตั้งกลุ่มชาวบ้าน มาตั้งแต่ปี 2522 เพื่อหลอมรวมคนท้องถิ่น-ท้องที่เมืองเจดีย์ใหญ่ให้เป็นหนึ่งเดียว

2 ทศวรรษที่ผ่านมา ไชยามีตัวแทนเป็นนายก อบจ.นครปฐม 4 สมัยคือ พเยาว์ เนียะแก้ว อดีตมือขวาเสี่ยอ้อน

การเลือกตั้ง สส.นครปฐม ปี 2562 พรรคอนาคตใหม่แจ้งเกิดบนเวที สส. ขณะที่บ้านใหญ่สะสมทรัพย์เกิดอาการช็อก เมื่ออดีต สส.หลายสมัยสอบตกแบบไม่น่าเชื่อ 

เมื่อบริบทสังคมการเมืองนครปฐมเปลี่ยน คนรุ่นใหม่หันไปสนับสนุนพรรคสีส้มเพิ่มขึ้น ตระกูล “สะสมทรัพย์” ก็ปรับตัว ไชยาเลือกลูกชาย จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ ลงสมัครนายก อบจ. แทนพเยาว์ เนียะแก้ว

เสี่ยอ้อน มีลูกชาย 2 คนคือ เสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ และเสี่ยโหน่ง-พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์

เสี่ยหนึ่ง รับบทแม่ทัพธุรกิจของตระกูลสะสมทรัพย์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจกำจัดขยะ อสังหาริมทรัพย์(สนามกอล์ฟ) และ พลังงาน

เสี่ยหนึ่งไม่คิดฝันจะเล่นการเมือง แต่พ่อไชยาร้องขอให้มารับมรดกการเมือง “กลุ่มชาวบ้าน” จึงสลัดภาพนักธุรกิจฉายา “เจ้าพ่อขยะ” ลงมาลุยสนามนายก อบจ.นครปฐม

ส่วนลูกชายคนเล็ก เสี่ยโหน่งลงสนามการเมือง ได้เป็น สส.นครปฐม มา 3 สมัยแล้ว ปัจจุบัน บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาในเวทีการเมืองระดับชาติ

เลือกตั้ง สส.ปีที่แล้ว พรรคชาติไทยพัฒนา มี สส.นครปฐม 3 คนคือ พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์, อนุชา สะสมทรัพย์ และศุภโชค ศรีสุขจร 

ระบอบบ้านใหญ่สะทรัพย์

เมืองเจดีย์ใหญ่ยุคเปลี่ยนผ่าน การเมืองอุปถัมภ์ถูกท้าทายจากคลื่นลูกใหม่ บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ จะยืนอยู่อย่างไร

ประเสริฐ สะสมทรัพย์ ผู้ก่อร่างสร้างอาณาจักรธุรกิจของตระกูลสะสมทรัพย์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566 

70 ปีที่แล้ว ประเสริฐ และสุนีย์ ในนามบริษัทกลุ่ม 79 เริ่มต้นธุรกิจรถสิบล้อ รถทัวร์สาย 79 ก่อนขยายมาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้าง โกดังข้าว และธุรกิจกำจัดขยะ 

ประเสริฐ เป็นคหบดีชาวจีนที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านร้านถิ่นตามประสาคนใจบุญ จึงได้เป็นนายกสโมสรโรตารี นครปฐม และนายกสมาคมอึ้งศรี นครปฐม

ประมุข “สะสมทรัพย์” รุ่น 1 ประเสริฐไม่สนใจเล่นการเมือง แต่สนับสนุนลูกชายทั้ง 4 คนเข้าสู่เส้นทางการเมือง ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น

ไชยา ลูกชายคนที่ 3 ของประเสริฐ มีบุคลิกใจถึงพึ่งได้ สไตล์คนจริงเมืองเจดียใหญ่ จึงเป็น สจ.นครปฐม มาตั้งแต่ปี 2522 โดยมีน้องเล็ก เสี่ยหมวย-อนุชา สะสมทรัพย์ ช่วยงานธุรกิจในครอบครัว

ส่วนพี่ชาย 2 คนคือ เผดิมชัย และไชยยศ พ่อแม่ส่งไปเรียนเมืองนอก ก่อนจะกลับทำธุรกิจ และเล่นการเมือง ไชยยศแต่งงานกับลูกสาว สุเมธ เตชะไพบูลย์ และลงสมัคร สส.นครปฐม สังกัดพรรคก้าวหน้า ปี 2529

ช่วงปี 2538-2543 ไชยยศ เป็นหัวหน้าพรรคเอกภาพ และไชยา ลงเล่นการเมืองระดับชาติครั้งแรก 

ตอนนั้น พรรคเอกภาพไม่ต่างจากพรรคการเมืองของตระกูลสะสมทรัพย์ โดยมีไชยาเป็นแม่ทัพใหญ่ คุมกำลังกลุ่มชาวบ้าน ฐานเสียงท้องถิ่น

ปี 2544 ตระกูลสะสมทรัพย์ สละเรือลำเก่า-พรรคเอกภาพ หันมาซบพรรคไทยรักไทย ตามคำเชิญชวนของทักษิณ ชินวัตร  

ปี 2562 การเมืองไม่ปกติ ตระกูลสะสมทรัพย์ โบกมือลาพรรคของทักษิณไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา และเผชิญสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เลือกตั้ง สส.นครปฐม บ้านใหญ่สะสมทรัพย์เหลือ สส.เพียงเขตเดียว ก่อนจะมีเลือกตั้งซ่อม ได้ สส.เพิ่มมาเป็น 2 คน และอีก 4 ปีต่อมา บ้านใหญ่ได้ สส.เพิ่มเป็น 3 คน 

เคล็ดลับที่ทำให้บ้านใหญ่สะสมทรัพย์กลับมาได้ก็คือ “กลุ่มชาวบ้าน” ที่มี จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ เป็นนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. 30 คน

เสี่ยหนึ่ง มีบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตัว และมีความเป็นนักธุรกิจเต็มตัว โดยทำตัวเป็นมือประสานสิบทิศ จึงหลอมรวมบ้านใหญ่ระดับ อบต.และเทศบาลให้เดินหน้าไปกับบ้านใหญ่สะสมทรัพย์