สแกนทัพ 'สส.น้ำเงิน' ผ่าเกมไล่ตี 'หนู' ต้อน 'งูเห่า'

สัปดาห์การเมืองร้อนแรง ดีเอสไอไล่บี้คดีฮั้วเลือก สว. สะเทือนเขากระโดง ส่งสัญญาณแตกหัก “แดง-น้ำเงิน” ทางใครทางมัน
จับอาการ “อนุทิน” คล้ายรับสภาพ อ่านเกมข้ามช็อต วันที่ ภท.ถูกเขี่ยเป็นฝ่ายค้าน สแกนทัพ “สส.น้ำเงิน” บ้านใหญ่ซุ้มไหน เลือกจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
วันอังคารที่ 25 ก.พ.2568 จะเป็นวันระทึกของกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน เพราะมีการประชุม “บอร์ดคดีพิเศษ” ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะ โดยวาระสำคัญคือ ดีเอสไอร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.2567 เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2)
บอร์ดคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 หรืออย่างน้อย 15 จาก 22 เสียง เพื่อรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ
ปลายปีที่แล้ว กูรูการเมืองหลายสำนัก ยังวาดภาพฉากทัศน์ “สามก๊กการเมืองไทย” คือ
- ก๊กสีแดง
- ก๊กสีส้ม
- ก๊กสีน้ำเงิน
บ้านใหญ่สีน้ำเงิน มี 130-150 เสียงในสภาสูง และสภาล่าง 71 เสียง รวมทั้ง 2 สภา ประมาณ 220 เสียง กลายเป็นผู้กุมดุลอำนาจที่ทรงอิทธิพลที่สุด
ด้วยการที่กุมดุลอำนาจ 2 สภา ทำให้ “ครูใหญ่” ไม่เกรงกลัวก๊กไหน และผู้นำหลังม่านอีกก๊กหนึ่งมองว่า บ้านใหญ่สีน้ำเงิน “ลุแก่อำนาจ” จึงมีการเปิดศึกแตกหัก
ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์สื่อหัวเขียวเหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองและค่ายภูมิใจไทย
“สุดท้ายต่อให้อยากอยู่แค่ไหน นายกฯไม่ให้อยู่ ก็อยู่ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นควรคุยกับใครล่ะ จบ ไม่มีรัฐมนตรีคนไหน หัวหน้าพรรคคนไหน ผู้นำจิตวิญญาณคนไหน จะเสนอให้รัฐมนตรีพ้นตำแหน่งได้ มีนายกฯคนเดียว ในโหมดของผมต้องคุยกับนายกฯ คนเดียว”
หากวันข้างหน้า ภูมิใจไทยต้องถอยไปอยู่ซีกฝ่ายค้าน ลองอ่านเกมข้ามช็อต สแกนขุมกำลัง 69 สส.สีน้ำเงิน บ้านใหญ่หลังไหนจะขยับขยายไปอยู่ค่ายใหม่บ้าง
วัดใจบ้านใหญ่อีสานใต้
หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 พรรคภูมิใจไทย มี สส.เขต 68 ที่นั่ง และสส.บัญชีรายชื่อ 3 ที่นั่ง รวม 71 ที่นั่ง ปัจจุบัน เหลือ สส.อยู่ 69 ที่นั่งเนื่องจากมี สส.เขต 1 คน โดนใบแดง และอีกคนหนึ่ง อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่
ในจำนวน สส.เขต 68 ที่นั่ง แยกเป็น สส.ภาคอีสาน 35 ที่นั่ง ภาคกลาง 21 ที่นั่ง และภาคใต้ 12 ที่นั่ง
ดังที่ทราบกัน สส.ภาคอีสานส่วนใหญ่ เป็นสายตรงขึ้นต่อ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” และอาจมี 2-3 จังหวัดที่แยกให้ ทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นคนดูแล
บุรีรัมย์ 10 คนคือ
- สนอง เทพอักษรณรงค์,
- ไชยชนก ชิดชอบ,
- อดิพงษ์ ฐิติพิทยา,
- รังสิกร ทิมาตฤกะ,
- โสภณ ซารัมย์,
- ศักดิ์ ซารัมย์,
- พรชัย ศรีสุริยันโยธิน,
- ไตรเทพ งามกมล,
- รุ่งโรจน์ ทองศรี
- จักรกฤษณ์ ทองศรี
สุรินทร์ 5 คนคือ
- ปกรณ์ มุ่งเจริญพร ,
- ผกามาศ เจริญพันธ์ ,
- ล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ ,
- เรืองวิทย์ คูณวัฒนาพงษ์
- ปทิดา ตันติรัตนานนท์
อุบลราชธานี 3 คนคือ
- สุทธิชัย จรูญเนตร,
- แนน บุณย์ธิดา สมชัย
- ตวงทิพย์ จินตะเวช
ศรีสะเกษ 2 คนคือ
- ธนา กิจไพบูลย์ชัย
- อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ
นครพนม 2 คน
- อลงกต มณีกาศ
- ชูกัน กุลวงษา
ชัยภูมิ 2 คนคือ
- สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์
- เชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์
อำนาจเจริญ 2 คนคือ
- สุขสมรวย วันทนียกุล
- ญาณีนาถ เข็มนาค
ขอนแก่น 2 คนคือ
- เอกราช ช่างเหลา
- องอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์
บึงกาฬ 2 คนคือ
- สยาม เพ็งทอง
- สุวรรณา กุมภิโร
เฉพาะ จ.บึงกาฬ “นายกหม่ำ” สุวรรณา กุมภิโร โดนใบแดง จึงต้องมีเลือกซ่อมในเร็ววันนี้
ที่เหลือได้ สส.จังหวัดละ 1 คน ได้แก่ ธนพัฒน์ ศรีชนะ ยโสธร ,ธนยศ ทิมสุวรรณ เลย ,ประภา เฮงไพบูลย์ กาฬสินธุ์, พลพีร์ สุวรรณฉวี นครราชสีมา และลัทธชัย โชคชัยวัฒนากร มหาสารคาม
ส่วน เอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 ในทางพฤตินัย ไม่ได้อยู่ในพรรคสีน้ำเงิน
ซึ่งวัฒนา ช่างเหลา นายก อบจ.ขอนแก่น ก็ไปสังกัดพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บ้านใหญ่ซุ้มแตกแน่
สส.ภูมิใจไทย ภาคกลาง 21 คน แยกย่อยไปตามซุ้มบ้านใหญ่ อย่างบ้านใหญ่พิจิตร, อยุธยา, ลพบุรี, ปราจีนบุรี, ราชบุรี และเพชรบุรี
ชาดา ไทยเศรษฐ์ บ้านใหญ่สะแกกรัง น่าจะเป็นซุ้มใหญ่ที่สุด เพราะดูแล สส.หลายจังหวัดอาทิ อุทัยธานี, นครสวรรค์, กาญจนบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์
ประกอบด้วย
- เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ อุทัยธานี ,
- มานพ ศรีผึ้ง นครสวรรค์,
- พีระเดช ศิริวันสาณฑ์ นครสวรรค์ ,
- มณเฑียร สงฆ์ประชา ชัยนาท ,
- ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน กาญจนบุรี
- สังคม แดงโชติ ประจวบคีรีขันธ์
ซุ้มซ้อสมทรง อยุธยา 3 คนคือ
- พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ,
- สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล
- ประดิษฐ์ สังขจาย
ซุ้มบ้านใหญ่ลพบุรี 2 คนคือ
- มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช
- นรินทร์ คลังผา
ซุ้มบ้านใหญ่โกทร ปราจีนบุรี 2 คนคือ
- อำนาจ วิลาวัลย์
- สฤษดิ์ บุตรเนียร
ซุ้มบ้านใหญ่อ่างทอง 2 คนคือ
- ภราดร ปริศนานันทกุล
- กรวีร์ ปริศนานันทกุล
ซุ้มบ้านใหญ่พิจิตร 3 คนคือ
- ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ ,
- วินัย ภัทรประสิทธิ์
- ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์
ซุ้มราชบุรี-เพชรบุรี ที่มี สรอรรถ กลิ่นประทุม ธานี ยี่สาร และ นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นแกนนำ มี สส.แค่คนเดียวคือ ฤกษ์ อยู่ดี เพชรบุรี ส่วน วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี เป็นสายตรงเสี่ยหนู
หากประเมินฉากทัศน์ที่เลวร้าย ค่าย ภท.ตกเป็นฝ่ายค้าน เชื่อว่า ซุ้มบ้านใหญ่ภาคกลาง คงแยกย้ายไปหาโอกาสใหม่กับพรรคใหญ่ ที่เป็นแกนนำรัฐบาล มากกว่าจะอยู่อย่างอดอยากปากแห้ง
ชายแดนใต้ส่อเผ่นหนี
แม่ทัพปักษ์ใต้ ค่ายสีน้ำเงินคือ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มี สส. 12 คน
นครศรีธรรมราช 2 คนคือ ษฐา ขาวขำ และมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล
กระบี่ 3 คนคือ
- กิตติ กิตติธรกุล,
- ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ
- สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง
สตูล 2 คนคือ พิบูลย์ รัชกิจประการ และวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์
ที่เหลืออยู่ก็จังหวัดละ 1 คนคือ อรรถพล ไตรศรี พังงา ,กฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ระนอง ,ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สงขลา ,พิชัย ชมภูพล สุราษฎร์ธานี
และซาการียา สะอิ นราธิวาส
ซุ้ม สส.สีน้ำเงิน สายปักษ์ใต้ หากจะมีแรงกระเพื่อมก็น่าจะเป็น ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส ที่ส่อเค้าจะย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม ในการเลือกตั้งสมัยหน้า
เนื่องจาก อับดุลลักษณ์ สะอิ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของซาการียา ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมเรียบร้อยแล้ว