ลบภาพเมืองขึ้น 'เนวินบุรี' มท.หนูเยียวยา 'บ้านใหญ่' ศรีสะเกษ

ฉวยจังหวะก่อนศึกซักฟอก “อนุทิน” เยียวยาตระกูล “ไตรสรณกุล” ลบภาพศรีสะเกษเมืองขึ้น “เนวินบุรี” สาเหตุ ภท.พ่าย พท.ในสนามใหญ่
มองผิวเผิน อาจเห็นแค่วาทกรรมยุทธศาสตร์ ภท. ตั้งเป้า “8 จังหวัดอีสานใต้” พัฒนาสู่ “แผ่นดินสีน้ำเงิน” แต่ลึกๆแล้ว ศึกนี้ไม่ง่าย
วันเสาร์ที่ 22 มี.ค. 2568 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย พร้อมแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ขนข้าราชการประจำกระทรวงมหาดไทยทุกระดับ ไปจัดอีเวนท์ใหญ่ที่ จ.ศรีสะเกษ
ไฮไลต์ภารกิจ “มท.หนู” ที่ จ.ศรีสะเกษหนนี้ ไม่ใช่อีเวนท์ “E-SAN Life Drive ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต 8 จังหวัด 8 วิสัยทัศน์” หากแต่เป็นการไปเยือนบ้านเกิดของตระกูล “ไตรสรณกุล” คือ อ.กันทรลักษณ์ และ อ.ศรีรัตนะ
“ชาวศรีสะเกษ หากจะตายต้องอิ่มตายไม่ใช่อดตาย จังหวัดศรีสะเกษไม่ใช่จังหวัดที่เป็นรองจังหวัดอื่น ผมโชคดีมาเป็นหัวหน้าพรรคที่ได้สัมผัสกับคนทุกระดับ ยอดฝีมือ ทั้งพวกเหยียบหิมะไม่มีรอย ใครก็รู้ว่าได้ยุทธจักรการเมืองคนเหล่านี้ยอดฝีมือทั้งนั้น วันนี้มาเจอทายาท ไม่ใช่ทายาทอสูร แต่เป็นทายาทมังกร ลูกเสือลูกมังกร..”
บางประโยคของ “อนุทิน” ที่วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้พูดต่อหน้า “นายกส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ และลูกสาว “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีมหาดไทย
“จังหวัดศรีสะเกษ ไม่ใช่จังหวัดที่เป็นรองจังหวัดอื่น” อนุทิน พูดประโยคนี้ขึ้นมา เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า สาเหตุหลักที่พรรคภูมิใจไทย พ่ายพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี 2554 เพราะคนเมืองศรีนครลำดวน ยังไม่ไว้วางใจ เนวิน ชิดชอบ
ยิ่งระยะหลัง จ.บุรีรัมย์ รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้น ก็ยิ่งทำให้คนศรีสะเกษเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ คำว่า “เมืองรอง” ถูกแปรเปลี่ยนเป็นเมืองขึ้นในความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป
ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ ปี 2562 ภูมิใจไทย จึงได้ สส. 2 คน และปี 2566 ก็ได้ สส. 2 คนเท่าเดิม จาก สส.ศรีสะเกษ ทั้งหมด 9 คน
“อนุทิน” รู้ดีว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งนายก อบจ.ศรีสะเกษ เป็นเรื่องของแบรนด์ “นายกส้มเกลี้ยง” หรือ “ไตรสรณกุล” ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย
ด้วยเหตุนี้ อนุทิน จึงต้องยกทัพข้าราชการมหาดไทย มาให้กำลังใจนายก อบจ.ศรีสะเกษ และให้ความมั่นใจกับคนศรีสะเกษว่า นับจากนี้ไปจะไม่ใช่เมืองรองของ “เนวินบุรี”
อีสานใต้ : แผ่นดินสีน้ำเงิน
กล่าวสำหรับงาน E-SAN Life Drive ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต 8 จังหวัด 8 วิสัยทัศน์ ที่ จ.ศรีสะเกษ เป็นการเปิดเวทีร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายประชาชน ฝ่ายราชการ และฝ่ายการเมือง ในการหาแนวทางการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
รวมถึงแผนงานการของบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานใต้ คือ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ยโสธร และชัยภูมิ
ในมิติทางการเมือง นี่คือที่มั่นอีสานใต้ จึงไม่แปลกที่ “มท.หนู” จะนำงบประมาณฯ มาพัฒนาจังหวัดเหล่านี้ ซึ่งทั้ง 8 จังหวัด มี สส.พรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ 1 คน ถึง 10 คน
นครราชสีมา : ภท.มี สส. 1 คน ยังเป็นจุดบอดของค่ายสีน้ำเงิน นับแต่ “เสี่ยแป้งมัน” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ทิ้งอนุทินไปซบค่ายทักษิณ
ชัยภูมิ : ภท.มี สส. 2 คน โชคดีได้ตระกูล “แทนทรัพย์” บ้านใหญ่ชัยภูมิโซนใต้ เป็นกำลังหลัก และยึดนายก อบจ.ชัยภูมิ แทนตระกูล “โล่ห์วีระ”
บุรีรัมย์ : ภท.มี สส. 10 คน สมเป็นเมืองหลวงค่ายสีน้ำเงิน และครูใหญ่เนวิน พยายามจะทำให้มี “บุรีรัมย์โมเดล” ในจังหวัดใกล้เคียง
สุรินทร์ : ภท.มี สส. 5 คน ประสบความสำเร็จเกินคาด หลังจากค่ายสีน้ำเงิน ได้ สส.1 คน มา 2 สมัยติดต่อกัน(ปี 2554 และปี 2562)
ศรีสะเกษ : ภท.มี สส. 2 คน สร้างความผิดหวังให้แก่แกนนำค่ายสีน้ำเงิน เพราะก่อนเลือกตั้ง คาดหวังที่จะได้ สส. 5-6 คน
อุบลราชธานี : ภท.มี สส. 3 คน ที่มาจากบ้านใหญ่ 3 ตระกูลดังคือ สมชัย, จินตเวช และโภคกุลกานนท์ ไม่ได้พึ่งแบรนด์สีน้ำเงิน
อำนาจเจริญ : ภท.มี สส. 2 คน ชนะยกจังหวัด ซึ่งเป็นผลงาน “เจ๊รวย” สุขสมรวย วันทนียกุล สายตรงนายใหญ่บุรีรัมย์
ยโสธร : ภท.มี สส. 1 คน เป็นทายาท พิกิฏ ศรีชนะ อดีต สส.ยโสธร คนสนิท “พ่อมดดำ” ที่ย้ายมาแล้วหลายพรรค
ประเมินทั้ง 8 จังหวัดอีสานใต้ ในความเป็น สส.ประเภทเสาเข็ม ก็มีเพียง จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ และ จ.อำนาจเจริญ เท่านั้น
ส่วนที่เหลืออีก 5 จังหวัด ยังอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง มีโอกาสชนะหรือแพ้ พลิกผันไปตามกระแสการเมือง ณ เวลานั้น
โจทย์ยาก “ศรีสะเกษ”
อย่างที่ทราบกัน การเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ ปี 2566 พรรคภูมิใจไทย ได้ สส. 2 ที่นั่งจาก อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ทายาทบ้านใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย และ ธนา กิจไพบูลย์ชัย หลานชาย “นายกส้มเกลี้ยง”
ขณะที่อดีต สส.ศรีสะเกษ อย่าง สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ, ประวีณ แช่จึง, ธีระ ไตรสรณกุล และอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ สอบตกเกลี้ยง
เนื่องจากกลยุทธ์ “ไล่หนูตีงูเห่า” ได้ผล เมื่อคนศรีนครลำดวนส่วนใหญ่ ยังฝังใจเรื่องงูเห่า หรือวาทกรรมคนทรยศนายใหญ่
ตรงกันข้าม ทักษิณ ชินวัตร นำแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า มาใช้กับการเลือกตั้งท้องถิ่น กลับไม่ได้ผล เพราะคนศรีสะเกษ แยกเรื่อง “นายกส้มเกลี้ยง” ออกจากพรรคสีน้ำเงิน
เพราะชัยชนะของตระกูลไตรสรณกุล “อนุทิน” จึงต้องเดินทางมากล่าวขอบคุณ “นายกส้มเกลี้ยง” อีกครั้งถึง อ.กันทรลักษณ์
“...นายกวิชิต หรือที่เรารู้จักกันในนามนายกส้มเกลี้ยง เปรียบเสมือนพี่ชายที่คลานตามกันมา รู้จักกันมากว่า 20 ปีแล้ว มีความเชื่อมั่นในตัวท่านเป็นอย่างมาก”
คล้ายครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ จะตกผลึกได้เสียทีว่า นับจากนี้ไป ต้องเชื่อใจและไว้วางใจในตัว “นายกสมเกลี้ยง” ไม่ใช่ปล่อยให้บ้านใหญ่ต่อสู้กับกระแสไล่หนูตีงูเห่ากันเพียงลำพัง เหมือนการเลือกตั้งปี 2566