รู้ลึก ‘บ้านใหญ่อ่างทอง’ ส่อง‘ แบด-แชมป์’ สส.ตลาดล่าง

คลิปขุนค้อนปราบกีกี้ “แบด” ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ ในศึกซักฟอก กลายเป็นไวรัล ชาวโซเชียลแห่ชื่นชมมากมาย

“แบด ภราดร” สมกับเป็นลูกไม้ใต้ต้น “เฮียตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาฯ ที่สื่อยกย่องให้เป็น “คนดีศรีสภา”

6 ปีที่แล้ว อดีตผู้สมัคร สส.พรรคสีส้ม ร้อนวิชา แสดงความเห็นกรณี สส.ต้องไปงานศพ งานแต่งงาน งานบวช ฯลฯ ว่าเป็น “สส.ตลาดล่าง”

คำว่า “สส.ตลาดล่าง” ทำเอา ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง ต้องโพสต์เฟซบุ๊คเตือนสติเด็กส้มว่า “อยากเป็นผู้แทนต้องรู้จักลงไปสัมผัสชาวบ้านบ้าง แล้วคุณจะคุ้นเคยกับเขา...และเขาก็จะรู้จักตัวตนของคุณเช่นกัน เตือนด้วยความหวังดีไอ้หนูน้อย”

หากไปถามคนอ่างทอง ใครก็รัก ใครก็ชื่นชม “สส.ตลาดล่าง” หรือผู้แทนติดดิน สองพี่น้องอย่าง “ภราดร-กรวีร์” ทายาท “เฮียตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต สส.อ่างทอง 9 สมัย

งานบุญ งานแต่ง งานบวช งานศพในเมืองอ่างทอง ชาวบ้านต้องเห็นหน้า “ลูกแบด” ภราดร และ “ลูกแชมป์” กรวีร์ ไปร่วมแสดงความยินดี ไปร่วมแสดงความเสียใจ เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน ไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์

ปีที่แล้ว เนื่องจาก “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา หลุดตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ภายหลังมีมติยุบพรรคก้าวไกล

ในฐานะพรรคอันดับ 2 ซีกพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย จึงเสนอชื่อภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง เขต 1 เป็นรองประธานสภาฯ

“ลูกแบด” หรือ “แบด”ภราดร ปริศนานันทกุล ได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯ ก็เหมือนการเดินตามรอยบิดา สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ซึ่งได้ทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2548

“เฮียตือ” ยามที่นั่งบนบัลลังก์ในฐานะประธานการประชุมสภาฯ ก็เป็นที่ยอมรับของเพื่อน สส. ในความเป็นกลาง เป็นธรรม สื่อมวลชนสายรัฐสภา จึงให้ฉายาว่า “คนดีศรีสภา”

จะว่าไปแล้ว 18 พรรษาการเมืองของ “แบด” ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง 4 สมัย ก็เหมาะสมที่จะนั่งรองประธานสภาฯ

เฮียตือ-สมศักดิ์ มีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน (โบว์ ธนยา) ปรากฏว่า ลูกชายทั้งสาม ลูกแบด ภราดร  แชมป์ กรวีร์ และเชน ภคิน ต่างก้าวสู่สนามเลือกตั้งผู้แทนฯ ตามรอยพ่อทุกคน

ปี 2550 สมศักดิ์ พาลูกชายคนโต ภราดร ลงสนาม สส.อ่างทอง ในสีเสื้อพรรคชาติไทย สองพ่อลูกได้เข้าสภาฯ

ปีถัดมา พรรคชาติไทยถูกยุบ สมศักดิ์ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ลูกชายคนเล็กของเฮียตือคือ เชน ภคิน ลงสมัคร สส.แทน และได้รับเลือกเป็น สส.อ่างทอง

จริงๆ แล้ว เฮียตือ มีลูกชายคนรอง “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล ที่ยังทำงานเป็นเลขานุการ นายก อบจ.อ่างทอง ในตอนนั้น

เมื่อเลือกตั้งปี 2554 ทั้งภราดร และกรวีร์ ลงสมัคร สส.อ่างทอง และได้เป็น สส.ทั้งคู่ ในสีเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา

ก่อนการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 สองพี่น้อง ภราดร-กรวีร์ ร่วมกับท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ในนามกลุ่มยังบลัด เตรียมปฏิรูปพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ผู้อาวุโสไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว

“เฮียตือ” จึงพาลูกชาย แบด-แชมป์ ออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นการจากลาบ้านเก่าทั้งน้ำตา

ปี 2562 สนามอ่างทอง สส.ลดเหลือ 1 คน ภราดร ได้รับเลือกเป็น สส.เขต ส่วนกรวีร์ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ในสีเสื้อภูมิใจไทย

ปี 2566 อ่างทอง กลับมามี 2 เขตเลือกตั้ง ทายาทตระกูล “ปริศนานันทกุล” ในเสื้อสีน้ำเงิน ได้ชัยชนะเหนือคู่แข่งแบบไม่ต้องลุ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ่างทองคือที่มั่นการเมืองอันแข็งแกร่งของตระกูล “ปริศนานันทกุล” ที่มีทั้ง สส. สว. นายก อบจ. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น และท้องที่

ในรอบ 4 ทศวรรษ “เฮียตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ผูกขาดตำแหน่ง สส.(สส.อ่างทอง 9 สมัย) แทบจะไม่มีใครกล้าแข่งขันด้วย

สมศักดิ์ เป็นชาวตำบลบางม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อเรียนจบ ก็มาช่วยพี่เขยทำโรงสี และได้แต่งงานกับรวีวรรณ ลูกสาวเจ้าของโรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ จากนั้นก็ช่วยพ่อตาทำธุรกิจโรงสี

ปี 2523 สมศักดิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด และได้เป็นประธานสภาจังหวัดอ่างทอง ซึ่งเวลานั้น เฮียตือได้รับการสนับสนุนจาก “เสี่ยแหย” สมชัย ฤกษ์วรารักษ์ คนดังเมืองอ่างทอง

เวลานั้น เสี่ยแหย-สมชัย เป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย และมี สส.อยู่ในซุ้มมากกว่า 10 คน (ส่วนใหญ่เป็น สส.อีสาน)

ปี 2529 สมศักดิ์ ขยับไปเล่นสนามการเมืองระดับชาติ ได้เป็น สส.อ่างทอง สมัยแรก ในโควตาเสี่ยแหย

เมื่อเฮียตือได้เป็น สส. ก็ฉายแสงความเป็น สส.รุ่นใหม่ สลัดภาพเดิม(เด็กซุ้มเสี่ยแหย) กลายเป็นขุนกระบี่คู่บารมีบรรหาร ศิลปอาชา และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการเมืองของพรรคชาติไทย สมัยโน้น

สำหรับการเมืองท้องถิ่นอ่างทอง สมศักดิ์ ได้วางตัวให้ “กำนันตี๋” สุรเชษ นิ่มกุล นายก อบจ.อ่างทอง ดูแลในนามกลุ่ม “สำนึกรักบ้านเกิด” และกำนันตี๋ยังเป็นนายก อบจ.อ่างทอง จนถึงปัจจุบัน

อีกด้านหนึ่ง ตระกูล “ปริศนานันทกุล” ชื่นชอบกีฬาลูกหนัง จึงก่อตั้ง “สโมสรฟุตบอลอ่างทอง เอฟซี” ฉายา “นักรบรวงทอง” ปี 2553 ภายใต้การดูแลของ ภราดร ปริศนานันทกุล ร่วมกับ “กำนันตี๋” สุรเชษ นิ่มกุล และได้จดทะเบียนเป็นบริษัท อ่างทอง เอฟซี จำกัด

จวบจนถึงวันนี้ อ่างทอง เอฟซี ก็วนเวียนอยู่กับไทยลีก 2 หรือไทยลีก 3 ยังไม่ทะลุขึ้นไทยลีก 1 ทำเอาบ้านใหญ่อ่างทองถอดใจ

ชั่วโมงนี้ “แบด” ภราดร ปริศนานันทกุล นั่งรองประธานสภาฯ แต่สมัยหน้า ให้จับตา “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล อาจได้เป็น “เสนาบดี” สีน้ำเงินคนแรกของเมืองอ่างทอง