เร่งสปีด ‘ฟื้นเศรษฐกิจ’ หลัง ‘เปิดประเทศ’
เตรียมเปิดประเทศ 1 พ.ย. ทยอยผ่อนคลายมาตรการด้านต่างๆ ปรับโซนสีพื้นที่จังหวัดจากสีแดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด คาดการณ์แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้น
วันนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์ "โควิด-19" หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้กำหนดมาตรการรับเปิดประเทศ 1 พ.ย. ไว้เรื่องหลัก คือ การผ่อนคลายมาตรการด้านต่างๆ ทั้งเรื่องปรับโซนสีพื้นที่ จังหวัดจากสีแดงเข้ม ที่เดิมมี 23 จังหวัด ให้เหลือเพียง 7 จังหวัด ประกอบด้วย 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา นราธิวาส สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช จันทบุรี และตาก ทั้ง 7 จังหวัด อาจยังต้องคงมาตรการเดิมของพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงคงเวลาการออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิวเช่นเดิม
ขณะที่ ศูนย์บูรณาการ แก้ไขสถานการณ์ "โควิด-19" ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค.ส่วนหน้า เสนอ 5 แนวทางในการแก้ปัญหา ได้แก่ การป้องกัน การควบคุม การรักษา การเยียวยา และเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย พื้นที่ชายแดนภาคใต้ ยังเป็นเรดโซนที่ต้องคุมเข้มอย่างต่อเนื่อง การหลบหนีเข้ามาของแรงงานต่างชาติจำนวนมากหากไม่มีมาตรการดูแล จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง
ขณะที่การเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมต้องเป็นวาระเร่งด่วน ศบค.ส่วนหน้ายืนยันว่า มีวัคซีนเพียงพอสำหรับพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เหลือเพียงขั้นตอนกระบวนการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ซึ่งต้องบูรณาการงานทุกภาคส่วนร่วมกัน ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ มีตัวเลขที่ลดลงให้ได้มากที่สุด
มหกรรมเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ หลายสำนักเศรษฐกิจคาดการณ์แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้น สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจความเห็นหอการค้าต่างประเทศ 66 รายจาก 29 ประเทศ ระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค.2564 ก็พบว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างประเทศ (FBCI) ไตรมาส 3 อยู่ที่ 41.7 “ดีขึ้น” หลังจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์และเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยววันที่ 1 พ.ย.นี้ หนุนความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างชาติดีขึ้น ส่วนผลสำรวจความเห็นเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน พบว่า เศรษฐกิจไทย อยู่ในระดับแย่ทั้งสภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อในประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ สถานการณ์การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม การค้า การบริการ ยังแย่ลง หากมองว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะดีขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศ
ดังนั้น เราเห็นว่า รัฐบาลจากนี้ต้องทำงานให้หนักขึ้น เร่งฟื้นเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและทันที ปลุกกำลังซื้อและความเชื่อมั่นต่างๆ ให้ฟื้นคืนกลับเร็วที่สุด แก้ปัญหาค่าครองชีพ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พลิกฟื้นแหล่งท่องเที่ยวให้ต่างชาติรู้สึกเชื่อมั่น และเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกของการเดินทางพักผ่อน หรือทำธุรกิจ ขณะที่ ต้องไม่ลืมสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศในทุกมิติด้วย ในห้วงวิกฤติ ใครล้มแล้วลุกได้เร็วย่อมได้เปรียบ แต่ต้องลุกขึ้นอย่างมีพลังและยั่งยืน