วันเวลาของการทำงานด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์

ปัญญาประดิษฐ์ ปัญญาประสาน มาแย่งงานคนบางคน แต่ก็เติมพลังให้กับคนอีกมากมาย วันนี้หลายบ้านเมืองเริ่มจริงจังในการให้ลูกหลานบ้านเขา ไม่ใช่แค่ใช้ AI เป็น แต่ยังสามารถเติมปัญญาของตนเองจาก AI ได้
บ้านเมืองไหนทำสำเร็จ ผู้คนรุ่นใหม่ของบ้านเมืองนั้น จะมีปัญญาที่มาจากการประสานปัญญาของตนเองเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับปัญญาที่ AI ประดิษฐ์ขึ้นมา
ถ้ามองไม่ลึกซึ้งจริงแล้วกุลีกุจอให้โรงเรียน จากเดิมจะทำอะไรให้ฟังครูไว้ก่อน ครูว่าอะไรก็ทำไปตามนั้น เปลี่ยนมาเป็นฟัง AI แทนครู เพราะเชื่อว่า AI สอนแทนครูได้ แทนที่จะได้ปัญญาเพิ่มจาก AI กลายเป็นทาสทางปัญญาของ AI ไปเลย
จะประสานให้เกิดการผนวกปัญญาของคนเข้ากับ AI หรือมี Collaborative Intelligence มีปัญญาประสานขึ้นได้อย่างไร
เริ่มกล่าวถึงกันมากขึ้น เมื่อ Generative AI มีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเริ่มมีบทบาททั้งในการทำงาน และในชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นการร่วมกันทำงานที่มีการประสานปัญญาระหว่างมนุษย์กับ AI
เริ่มต้นด้วยการการกำหนดประเด็นที่ต้องการทำหรือ ต้องการหาคำตอบ แล้วแบ่งแยกหน้าที่ว่าคนเราเก่งด้านไหน AI เก่งด้านไหน ในเรื่องนั้น แล้วร่วมกันทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น บางกิจกรรมมอบให้ AI ทำ
ทำแล้วส่งผลกลับมาให้คน คนก็จะพิจารณาผลที่ได้ว่ายังขาดเหลืออะไรบ้าง หรือมีประเด็นใดที่ต้องทำเพิ่มเติม ส่งกลับเป็นความเห็นให้กับ AI ซึ่งจะวนกลับไปทำกิจกรรมนั้นใหม่
โดยคาดหวังจากทั้งคน และAIว่าในรอบใหม่นี้ ผลที่ได้มาน่าจะมีอะไรต่อะไรดีขึ้นบ้าง AI สร้าง คนวิเคราะห์ว่าใช้ได้ ใช้ไม่ได้ แล้วบอกให้ AI ปรับปรุงแก้ไข จนกว่าคนจะเห็นว่าน่าจะใช้ได้แล้ว จึงจะเป็นการยุติการงานนั้น
ใครที่รู้จัก Generative AI อย่างผิวเผินจึงยากนักที่จะเกิดทักษะปัญญาประสาน เพราะปัญญาประดิษฐ์ บอกอะไรมาก็เชื่อตามไปหมด
งานที่มีการนำปัญญาประสานไปใช้มีตั้งแต่ การแพทย์ ธุรกิจ การผลิตอุตสาหกรรม ไปจนกระทั่งการให้บริการต่างๆ ในภาครัฐของประเทศที่จริงจังกับอนาคต มากกว่าเรื่องจุกจิกที่ปรากฏมาในแต่ละวัน
AI ช่วยคุณหมอในการวิเคราะห์ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยจากข้อมูลทางการแพทย์ที่รวบรวมมา แบ่งเบาภาระประจำเหล่านี้ออกไปจากคุณหมอ คุณหมอเลยมีเวลามากขึ้นในการคิดหาหนทางดูแลรักษาผู้ป่วย
หุ่นยนต์อยู่ในสายการผลิตแทนคน โดยคนไปรอตรวจสอบความถูกต้องที่ปลายทางสายการผลิต หุ่นยนต์ผลิต คนกำกับคุณภาพ AI รวบรวม และช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ส่งให้คนกำหนดหรือปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทำงานด้วยปัญญาประสาน เริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมายที่แน่ชัดว่า ต้องการอะไรจากการประสานปัญญานี้ จะประสานปัญญากับ AI จัดการปัญหาการจราจร หรือจะหาทางรักษาลูกค้ากำลังซื้อสูงไว้อีกสามสี่ปี ได้เป้าหมายแล้วก็แยกแยะระหว่างงานที่ค่อนข้างจะเป็นงานที่ทำอยู่เป็นประจำ
ทำซำ้ซากแต่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเยอะแยะ กับงานที่ซับซ้อน ต้องคิดกันหลายขั้นหลายตอน งานไหนที่ไปทางงานประจำ ให้ฝึก AIให้ช่วยทำงานนั้นแทน
งานซับซ้อนที่ในวันนี้ยังคงต้องอยู่ในมือคน AI ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไป ยังไม่พร้อมที่จะรับมืองานซับซ้อนเหล่านี้ โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้เข้าใจการงานนั้นอย่างจริงจัง มีหวังถูก AI มั่วแบบเหมือนจริงให้แน่ๆ
ก่อนตัดสินใจมอบหมายงานให้คน หรือให้ AI ไปทำ ให้ทบทวนความเสี่ยงดูว่า ถ้าคนพลาด หรือ ถ้า AI พลาดในการทำงานนั้นแล้วจะมีอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
งานที่มอบให้ AI ต้องเป็นงานที่ดูแล้วเสี่ยงตำ่ และต้องมั่นใจว่าการตัดสินใจสำคัญต้องอยู่ในหน้าที่ของคน ไม่ใช่ AI ระวังเรื่องประเด็นจริยธรรมในการให้ AI ทำงานนั้นไว้ด้วยว่า อย่าปล่อยให้ AI ไปละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือลำเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
ปัญญาประสานช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงาน งานยากทำได้ง่ายขึ้น งานใหญ่สำเร็จเร็วขึ้น อยากให้บุคลากรทำงานโดยใช้ ปัญญาประสาน ต้องแน่ใจว่าไม่มีการบริหารแบบ Micro-management ที่ทำให้หลายสมอง ลดเหลือแค่สมองเดียว คือสมองของนายใหญ่.