โลกมุ่งเทคโนโลยี ‘เอไอ’ รัฐบาลอย่าทำงานแบบอนาล็อก

โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เห็นการปรับตัวเร็วทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การเตรียมความพร้อมพัฒนาบุคลากรรองรับเทคโนโลยีใหม่ ไม่เว้นแม้แต่ภาครัฐในหลายประเทศที่จำเป็นต้องพลิกโฉมการทำงานจากระบบดั้งเดิมสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ รัฐบาลควรสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเทคโนโลยีในภูมิภาคตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งการผลักดันดาต้าเซนเตอร์เป็นอีกแนวทางที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัล รวมทั้งต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ

ในขณะที่การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้านดิจิทัลและเข้าใจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน โดยเฉพาะบุคลากรภาครัฐที่ต้องมีการฝึกอบรม สร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐคิดนอกกรอบ พร้อมเปิดรับนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยพัฒนาระบบราชการให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการก้าวเข้าสู่ยุคเอไออย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสใหม่ให้กับสังคมไทยอย่างแท้จริง

ศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์สามารถใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งความสามารถของปัญญาประดิษฐ์สามารถมองลงรายละเอียดของข้อมูลแล้วนำมาประมวลผล โดยเฉพาะการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันที่สามารถพัฒนานวัตกรรมให้รองรับกับนโยบายของภาครัฐได้ โดยมีความสามารถในการระบุตัวตน แยกแยะสิ่งที่ผิดปกติรวมถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยที่มนุษย์จับสังเกตไม่ได้ แต่ขึ้นกับภาครัฐจะเร่งขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีมาใช้มากน้อยเพียงใด

การทำงานแบบอนาล็อกจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ หน่วยงานราชการจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน การนำระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดินมีความรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้รัฐบาลสามารถนำข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้วางแผนบริหารราชการแผ่นดินมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น