พลังงานอุดหนุนดีเซล ‘คนละครึ่ง’ ส่วนที่เกิน 30 บาท

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ระบุมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.2565 โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไปรัฐบาลจะอุดหนุนครึ่งหนึ่งจากส่วนเกิน 30 บาท เพื่อกำหนดเป็นกรอบเพดานราคาใหม่ ส่วนที่เกินจากกรอบเพดานใหม่จะสามารถอุดหนุนให้ต่ำกว่าเพดาน ส่วนราคาที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่นั้น ได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานไปพิจารณา

“หากเทียบราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 40 บาทต่อลิตร ส่วนเกินมา คือ 10 บาทต่อลิตร เมื่อรัฐเข้าไปอุดหนุนครึ่งหนึ่ง ราคาเพดานใหม่จะอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร กระทรวงพลังงานต้องดูว่าราคาจริงจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อให้การปรับขึ้นน้ำมันดีเซล เป็นการปรับเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะไม่ขึ้นราคาดีเซลเป็นลิตรละ 35 บาททีเดียว เพราะประชาชนจะเดือดร้อน ตรงนี้ได้มอบให้ปลัดกระทรวงพลังงานศึกษาอัตราที่จะเพิ่มขึ้นจะเป็นเท่าไร อาจเป็น 31,32,33 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาน้ำมันขึ้นทีละนิด ซึ่งรัฐบาลจะอุดหนุนมากกว่า 50% โดยใช้งบอุดหนุนจากจากกองทุนน้ำมัน"

ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลขณะนี้อยู่ที่ 40 บาทต่อลิตร ซึ่งรัฐบาลอุดหนุนราคาอยู่ที่ลิตรละ 10 บาท คิดเป็นเดือนละ 6,000 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ต้องค่อย ๆ ปรับตัว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีแนวโน้มยืดเยื้อหรือไม่ จึงต้องประเมินสถานการณ์อย่างน้อย 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.65) ซึ่งอาจยืดเยื้อและทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

ยืนยันว่ารัฐบาลยังมีศักยภาพในการช่วยอุดหนุนและประคับประปองราคาน้ำมันในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ทั้งการเปิดประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่กำลังกลับมา โดยจะพิจารณาในช่วง 3 เดือนนี้ และความเป็นไปได้ที่จะปล่อยลอยตัวราคาน้ำมัน หรือจะมีการอุดหนุนต่อไป

ส่วนราคาสินค้าที่ปรับขึ้นตามราคาค่าขนส่ง บริษัทผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีสูตรการปรับราคาสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดในขณะนี้ ซึ่งในวิกฤตที่เรากำลังเผชิญ ราคาสินค้าสูงขึ้น เราก็ต้องประหยัด พึ่งพาตัวเอง ลดการใช้ในสิ่งที่สิ้นเปลือง ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ซึ่งรัฐบาลได้ออก 10 มาตรการในการช่วยเหลือค่าครองชีพไปแล้ว เช่น ลดค่าใช้ไฟฟ้า ลดส่งเงินสมทบประกันสังค