CKP - ข่าวดีช่วยหนุน (วันที่ 29 เมษายน 2565)
เราคาดกำไร 1Q จะสูงขึ้น 47% yoy หรือ 37% qoq เป็น 168 ลบ. หนุนโดยปริมาณน้ำที่เขื่อนไซยะบุรี (XPCL) ในเดือนมี.ค. สูงขึ้น 58% yoy นอกจากนี้ เรามองว่าปริมาณน้ำฝนใน 2Q-3Q มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับปกติ
อันเนื่องมาจากความน่าจะเป็นในการเกิดภูมิอากาศแบบลานีญาตามคาดการณ์ของ ENSO ในช่วงเดือน เม.ย. - ส.ค. สูงกว่า 50% คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาทต่อหุ้น
คาดกำไร 1Q เติบโตดีทั้ง yoy และ qoq
หนุนโดยปริมาณน้ำที่เขื่อนไซยะบุรี (XPCL) สูงขึ้น 58% yoy เป็น 2,867 ลบ.ม./วินาที ในเดือน มี.ค. ดังนั้นปริมาณน้ำเฉลี่ยใน 1Q ที่ XPCL เพิ่มขึ้น 23% เป็น 2,131 ลบ.ม./วินาที ช่วยให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ XPCL อาจแตะระดับ 1,404GWh สูงขึ้น 19% yoy คาด CKP อาจมีส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL เท่ากับ 150 ลบ. เทียบกับขาดทุน 32 ลบ. ใน 1Q21 ส่วนการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2) ลดลง 18% yoy เป็น 331 GWh ใน 1Q ในภาพรวมเราคาดกำไรสุทธิ 168 ลบ. จากการดำเนินงานใน 1Q22F สูงขึ้น 47% yoy และ 37% qoq
คาดภาวะลานีญาจนถึง ส.ค. 2022
ปริมาณน้ำฝนใน 2Q-3Q มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับปกติอันเนื่องมาจากความน่าจะเป็นในการเกิดภูมิอากาศแบบลานีญาตามคาดการณ์ของ ENSO ในช่วงเดือน เม.ย. - ส.ค. สูงกว่า 50% (59% ช่วงมิ.ย. - ส.ค. 2022) เรามีโอกาสทบทวนประมาณการ หากปริมาณน้ำที่ XPCL และ NN2 สูงกว่าสมมติฐานของเรา
ลงนาม MOU Tariff สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง
บริษัทได้ลงนามใน tariff MOU กับ EGAT สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง (LPHPP) ในลาว มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,460MW และมีกำหนดการ COD ใน 1 ม.ค. 2030 โดยมีอัตรา tariff ที่ 2.4030 บาท/kWh เราคาดโครงการหลวงพระบางจะเพิ่มมูลค่า 2.2 บาทต่อหุ้น ให้ CKP แต่เรายังไม่รวมโครงการนี้ใน valuation เนื่องจากบริษัทสามารถบันทึกกำไรจากการดำเนินงานหลังปี 2029
คงคำแนะนำ ซื้อ TP 6.50 บาทต่อหุ้น
จาก (1) ยังมีอัพไซด์ที่น่าสนใจ, (2) ภาวะลานีญาใน 2Q-3Q, และ (3) มุมมองเชิงบวกของเราต่ออุตสาหกรรมพลังงานทดแทนโดยเฉพาะพลังงานจากน้ำ