"เนชั่น" เดินหน้ายุทธศาสตร์ "ONE NATION"
“เนชั่น กรุ๊ป” เดินหน้าตามแนวทางการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหม่...ตามแนวนโยบาย "One Nation" ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญสู่ภูมิทัศน์ใหม่แห่งโลกอนาคต พร้อมมีฐานะการเงินเข้มแข็ง หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติผ่านทุกวาระ
“เนชั่น กรุ๊ป” เดินหน้าตามแผนปรับโครงสร้างด้วยการผนึกกำลัง และ Synergy องค์กรภายใต้ยุทธศาสตร์ “ONE NATION” ถือเป็นสถาบันสื่อที่ยืนหยัดเคียงคู่คนไทยมายาวนาน และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เรายึดมั่นอุดมการณ์ในการเป็นสถาบันสื่อเพื่อประเทศชาติและประชาชน
หลังประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ NMG อนุมัติซื้อหุ้น บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (NNV) จำนวน 85.99 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ NNV ในราคาหุ้นละ 2.7878 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 239.72 ล้านบาท จาก บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ NBC และจะให้เงินกู้ยืมแก่ NNVเพื่อชำระหนี้แก่ NBC จำนวน 221.30 ล้านบาท รวมมูลค่าลงทุนใน NNV จำนวน 461.02 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.2565
รวมถึงอนุมัติการขายหุ้นสามัญใน NBC จำนวน 691.03 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 61.4569 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ NBC ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าเบื้องต้นรวม 898.34 ล้านบาท ให้แก่ นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ และ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม โดยคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565
นอกจากนี้อนุมัติ เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG เป็น บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ NATION ขณะที่ผู้ถือหุ้น NBC ก็อนุมัติทุกวาระ พร้อมเดินหน้า 3 ธุรกิจหลัก มีเดีย โฮมชอปปิง คอลเซ็นเตอร์
“ฉาย บุนนาค” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ NMG เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ผู้ถือหุ้นทั้ง NMG และ บริษัท บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC มีการอนุมัติเป็นมติเอกฉันท์ ทุกวาระในการประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ให้ “เนชั่น กรุ๊ป” เดินหน้าตามแนวทางการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหม่...ตามแนวนโยบาย "One Nation"
ดังนั้น ในครั้งนี้ !! ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญของ "เนชั่น กรุ๊ป" สู่ภูมิทัศน์ใหม่แห่งโลกอนาคต ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่สถาบันสื่อที่มีความเป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
โดยนโยบาย One Nation คือการผนึกกำลังและสร้าง Synergy ทางธุรกิจระหว่างกลุ่มสื่อทั้ง 8 ภายใต้ เครือเนชั่นกรุ๊ป นั้นคือ กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก, เนชั่นไทยนิวส์, เนชั่นทีวี 22, The Nation Thailand ,The People, ขอบสนาม และ สปริง ออนไลน์ ภายใต้การทำหน้าที่องค์กรสื่อสารมวลชน ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ในการทำหน้าที่ ตามจริยธรรมวิชาชีพสื่อ ตรวจสอบทุจริต ดูแลผลประโยชน์ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ตอกย้ำความเป็นสื่อที่รับผิดชอบต่อสังคม
ในปีนี้ เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 51 ปี เราเป็นสถาบันสื่อที่ยืนหยัดเคียงคู่คนไทยมายาวนาน และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ยึดมั่นอุดมการณ์ในการเป็นสถาบันสื่อเพื่อประเทศชาติและประชาชน
** ‘เอ็นบีซี’ลุย3ธุรกิจ‘มีเดีย-โฮมชอปปิง-คอลเซ็นเตอร์
“ฉาย” กล่าวต่อว่า ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 อนุมัติขายหุ้น บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (NNV) จำนวน 85,999,997 หุ้น คิดเป็น 99.99% ให้แก่ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG คิดเป็นมูลค่า 239.73 ล้านบาทและ ได้รับเงินชำระหนี้จาก NNV อีก จำนวน 221.30 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่า 461.03 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้น NNV บริษัทจะนำมาขยายใน 3 ธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจมีเดีย 2. ธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโทรทัศน์ (Home Shopping) ให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ Healthy Products ต่างๆ และธุรกิจคอลเซ็นเตอร์
“ภายหลังการทำรายการนี้ เนชั่นกรุ๊ปจะมีสถานะการเงินที่เข้มแข็ง พร้อมด้วยกระแสเงินสด และมีความพร้อมในการเดินหน้าขยายธุรกิจต่อไป ทั้งนี้การปรับโครงสร้างธุรกิจของ Nation Group ก็น่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค. ตามนโยบาย One Nation”
*** มั่นใจปีนี้พลิกมี "กำไร"
"สมชาย มีเสน" กรรมการ และ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG กล่าวว่า จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ในการเข้าซื้อ บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (NNV) จะทำให้โครงสร้างของกลุ่มบริษัทมีความชัดเจนและมีความคล่องตัวมากขึ้น ลดภาระต้นทุนที่ซ้ำซ้อน ในการบริหารจัดการสอดคล้องกับแผนธุรกิจตามนโยบาย “One Nation” และช่วยลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน และเสริมศักยภาพให้กับองค์กรมากที่สุดเกิดความร่วมมือภายในกลุ่มบริษัท ซึ่งสามารถแบ่งปันทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด(Synergy) ต่อ บริษัทและ NNV
สำหรับการดำเนินหน้าธุรกิจสื่อของเนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์)จะมีการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อหนุนให้บริษัทมีรายได้เติบโตมากขึ้น โดยในปี 2565 ตั้งเป้าจะมีรายได้ออนไลน์เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2564 แต่ธุรกิจสื่อเก่า นั้นถือว่ามีความจำเป็นในการสร้างคอนเทนท์ที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถต่อยอดในการจัดงานอีเวนท์ งานแฟร์ และการประกาศรางวัน (อวอร์ด)
โดยคาดว่ารายได้ปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท และ มั่นใจว่าจะสามารถพลิกมีกำไร เพราะ ทุกธุรกิจจะสามารถมีกำไรได้ จาก ปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 118.07 ล้านบาท และ คาดว่าส่วนของผู้ถือหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นได้ 20% จาก ณ สิ้นปี 2564 ที่มี 1.19 ล้านบาท เพราะ บริษัทจะรับรู้กำไร ประมาณ 437 ล้านบาท จากการขายหุ้น บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC และหลักจากการเข้าลงทุนใน NNV
รวมถึงบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นให้เพิ่มขึ้นเกิน 50 % เพื่อที่จะสามารถปลดเครื่องหมาย C ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะนำกำไรดังกล่าวไปชำระหนี้เพื่อทำให้บริษัทมีหนี้เหลือน้อยที่สุด และเป็นการลดภาระดอกเบี้ยของบริษัท จากปีก่อนที่มีภาระดอกเบี้ย 43 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีฐานะการเงินมั่นคงมากขึ้น
ส่วนแผนการล้างขาดทุนสะสมที่มีจำนวน 3,262.13 ล้านบาท ในงบเฉพาะกิจการนั้น บริษัทจะมีการจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาศึกษาแนวทางในการล้างขาดทนสะสม ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่บริษัทจะต้องดำเนินการ เพื่อที่จะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทได้
สมชาย กล่าวถึง ธุรกิจกาแฟของ บริษัท เนชั่น คอฟฟี่ จำกัด (Nation Coffee) ว่า สาเหตุที่มีการทำธุรกิจร้านกาแฟ เพราะธุรกิจกาแฟในประเทศไทยมีการเติบโตสูง และกลุ่มผู้ชม และผู้อ่าน สื่อในกลุ่มของบริษัทชอบดื่มกาแฟ ซึ่งหากทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และ เพิ่มจำนวนสาขามากขึ้น ก็จะทำให้ผลการดำเนินงานธุรกิจนี้ เติบโตมากขึ้น ซึ่งตามแผนเดิม มีเป้าหมายจะขยายสาขา 10 สาขา ในปีนี้ แต่จาการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้คนทำงานที่บ้าน (work form home) ทำให้จะต้องมีความระมัดระวังในการขยายสาขา และอาจจะต้องปรับการขยายสาขาไปยัง Co-Working Space 9 ต่างๆ ซึ่งหากขยายสามารถเพิ่มได้10 สาขา จะทำให้ธุรกิจกาแฟมีกำไร
"เราเพิ่งเริ่มทำธุรกิจกาแฟเมื่อเดือนมิ.ย. 2564 ซึ่งในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจใหม่นั้น ย่อมมีผลขาดทุน ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (มิ.ย. -ธ.ค. 2565)ที่ผ่านมาขาดทุน 1.75 ล้านบาท แต่หากสามารถขยายสาขาเพิ่มได้ 10สาขา ก็จะทำให้ธุรกิจกาแฟพลิกมีกำไร"
โดยมีแผนการนำคอนเทนต์กลุ่มเนชั่นที่มีอายุยาวนานถึง 51 ปี มีทรัพยากร และ สินทรัพย์ทางปัญญาต่างๆ ไม่ว่าจะรวมไปถึงรูปภาพและวิดีโอ หากนำมาจัดการแปลงสู่สินทรัพย์ดิจิทัลมันมีมูลค่ามหาศาล เป็นสิ่งที่เตรียมบริหารจัดการให้เป็นระเบียบ โดยมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาคือ บริษัท ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ จำกัดเข้ามาช่วยดูแลและศึกษาการออกเหรียญโทเคน หรืออาจจะเป็น NFT ในไตรมาส 3-4 จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น
รวมทั้งการนำดาต้า กลุ่มเนชั่น ที่มีอยู่จำนวนมากและน่าสนใจนำไปผลิตเป็นสารคดีด้านข่าวเพื่อเผยแพร่ในช่องทางอื่น เช่น เแพลตฟอร์มบริการผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ OTT