จาก “น้ำอัดลม” สู่ “ปลากระป๋อง” ผ่าวิชั่น “อาเจ” ลุยสังเวียนสินค้าคอนซูเมอร์
จิ๊กซอว์ใหม่ "อาเจ" เสริมทัพสินค้าอุปโภคบริโภค เสิร์ฟชาวไทย-อาเซียน ประเดิมปลากระป๋อง ชูจุดต่างปลาซาบะในซอสมะเขือเทศ ตามด้วยสินค้าดูแลบ้าน สินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคล สานเป้าหมายยอดขาย-กำไร เติบโต "เท่าตัว" ในปี 2573
ระยะเวลากว่า 30 ปี เป็นเส้นทางธุรกิจของ “อาเจ” ที่กล้าก้าวมาเป็นผู้เล่นในตลาดน้ำอัดลม มีแบรนด์ “บิ๊ก โคล่า” ทำตลาด และปัจจุบันเป็นแบรนด์รั้งเบอร์ 4 ของโลกในเชิงปริมาณและมูลค่า
เป็นที่ทราบกันโดยสังเขปว่า “อาเจ” เป็นทุนข้ามชาติจาก “เปรู” ที่มีเครื่องดื่มเป็นสินค้าหลักหลากหลายหมวด เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ และโซดา เป็นต้น โดยมีการทำตลาดกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทวีปอเมริกา 12 ประเทศ อาฟริกา 9 ประเทศ ยุโรป 2 ประเทศ เอเชีย 14 ประเทศ
ส่วนประเทศไทย “อาเจ” เข้ามาปักหมุดสร้างฐานธุรกิจเป็นเวลา 17 ปีแล้ว ด้วยการเปิดศึกชิงตลาดน้ำอัดลมมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ชูจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์น้ำดำ น้ำสี ให้เลือกมากมายไม่แพ้ผู้เล่นรายใหญ่เจ้าตลาดทุกค่าย
แต่กลยุทธ์ที่เป็น DNA ของแบรนด์คือ “ราคา” ที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ตอกย้ำความ “คุ้มค่า” ทั้งหมดเพื่อให้ “ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงสินค้า” ได้
ผ่านไปเกือบ 2 ทศวรรษ “อาเจ” ไม่พึ่งพาการเติบโตจากเครื่องดื่ม โดยเฉพาะน้ำอัดลมเท่านั้น แต่มองโอกาสใหม่ ในการขยายพอร์ตโฟลิโอเข้าสู่สินค้าอุปบริโภคอื่นๆมากขึ้น
++วิชั่น 2573 ยอดขาย-กำไร โตเท่าตัว
ฟาเบียน มอสเกล่า ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อาเจ อาเซียน เล่าวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนธุรกิจในไทยและอาเซียน จะให้ความสำคัญกับการขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าอุปโภคบริโภคหรือConsumer Product เข้าทำตลาดมากขึ้น เพื่อสานเป้าหมายใหญ่ภายในปี 2573 บริษัทต้องการผลักดัน “ยอดขาย-กำไร” เติบโต “เท่าตัว”
เพื่อให้ตัวเลขไปถึงฝั่งฝัน บริษัทจึงวางกลยุทธ์หลายด้านเพื่อหนุนธุรกิจ อย่างแรก ประเดิมเปิดตัว “ปลากระป๋อง” แบรนด์ “ดิ’กุสโต้ (D’Gussto) หวังชิงเค้กก้อนโตมูลค่าราว 8,000 ล้านบาท
ทว่า มาทีหลัง และต้องเจอการแข่งขันสูง จากตลาดปลากระป๋องเต็มไปด้วย “คู่แข่ง” เล็กใหญ่มากมาย จึงชูจุดขาย “ปลาซาบะในซอสมะเขือเทศ” ที่การันตีเกรดพรีเมียม และจำหน่ายในราคา 20 บาท
การเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่อาจหาญฉีกตลาดไปสร้างหมวดหมู่ใหม่อย่างปลาซะบะในซอสมะเขือเทศ ทั้งที่ตลาดปลากระป๋องส่วนใหญ่เป็น ปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศจำหน่ายอยู่ไม่ง่าย มีสารพัดโจทย์ต้องเผชิญแน่ๆ ได้แก่ พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค จากแบรนด์ในใจ(Top of mind) ผลิตภัณฑ์ รสชาติที่คุ้นลิ้นชินปาก รวมถึง “ราคา” เป็นต้น
เมื่อ ฟาเบียน ย้ำจุดขายโปรดักท์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือกลยุทธ์ “ราคา” เดินรอยตามน้ำอัดลม “บิ๊ก โคล่า” ที่ขายราคาเดิมยาวนานถึง 17 ปีแล้ว
“การเติบโตจากอดีตถึงอนาคต ดีเอ็นเอของบริษัทคือนำเสนอความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค”
ทุนมี สินค้าและแบรนด์พร้อม อาวุธการตลาดไม่น้อยหน้า แต่สิ่งที่เป็นกระดูกสันหลังของธุรกิจยุคปัจจุบัน คือการมี “ช่องทางจำหน่าย”
อาเจ ทำธุรกิจในไทยมานานพอควร ทำให้ปัจจุบันมีเครือข่ายร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มครอบคลุมถึง 200,000 แห่งทั่วประเทศ และยังมีตัวแทนจำหน่ายตรงอีก 70 ราย เป็นต้น เพื่อเดินเกมรุกเจาะลูกค้า
การรุกตลาดปลากระป๋องบริษัทวางเป้าหมายมียอดขาย 10% ในปี 2573
++อาหาร-ของใช้ในบ้าน จิ๊กซอว์หนุนโต
ปลากระป๋อง “ดิ’กุสโต้” โดดสู่สังเวียนอาหารแล้ว แต่บริษัทยังมอง “โอกาส” ทางการตลาดอีกมาก โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพ ลุยเครื่องดื่มน้ำผลไม้กลุ่มซูเปอร์ฟรุตน้ำช่อดอกมะพร้าวแบรนด์ “อมายู (AMAYU)”
“อมายู” ยังมาเสริมทัพสินค้าในโฟลิโอของอาเจ ซึ่งปัจจุบันหลากหลายรายการ เช่น น้ำอัดลมบิ๊ก โคล่า ชาพร้อมดื่มบิ๊กที น้ำดื่มวีด้า เครื่องดื่มชูกำลังโวลท์ เครื่องดื่มเกลือแร่สปอเรต เป็นต้น
ตามวิสัยทัศน์ 2573 บริษัทจะเพิ่มสินค้าอุปโภคบริโภคใหม่ๆมาทำตลาดต่อเนื่อง เช่น สินค้าดูแลบ้าน(Home caree) สินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคล(Personal care) เป็นต้น
ขณะที่พอร์ตโฟลิโอคอนซูเมอร์ โปรดักท์ของอาเจ ยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ช็อกโกแล็ต ทูน่ากระป๋อง เป็นต้น โดยประทศที่มีการขยายตลาดสินค้าใหม่ที่มีทั้งอาหาร สินค้าอุปโภค 6 ประเทศ ได้แก่ เปรู หรือรวมกลุ่มอเมริกากลาง 5 ประเทศ และไทย
นอกจากนี้ จะขยายสินค้าดังกล่าวไปยังตลาดประเทศต่างๆในอาเซียนเพิ่มเติมด้วย
“แม้เครื่องดื่มเป็นสินค้าหลักที่บุกตลาดอาเซียน แต่เรามแงโอกาสไปยังสินค้าใหม่เพิ่ม เราจะก้าวไปสู่จักรวาลใหม่ด้วยการนำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความคุ้มค่า เพื่อสร้างการเติบโตเท่าตัว”