KCC ราคาเปิดเทรดวันแรก 6.20 บาทต่อหุ้น เหนือจอง67.57 %
KCC เปิดเทรดวันแรก 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาท หรือ 67.57% จากราคาไอพีโอ 3.70 บาท เตรียมนำเงินระดมทุน 592 ล้านบาท ขยายธุรกิจหนุนเติบโต
บมจ. บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันนี้(5 พ.ค.65) โดยเปิดตลาดที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาท หรือ67.57 % จากราคาไอพีโอ ที่ 3.70 บาท
KCC ประกอบธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย และปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย โดยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินธุรกิจบริษัทบริหารสินทรัพย์เมื่อปี 2556 ซึ่งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จะเป็นการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan : NPLs) จากสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน เพื่อนำมาบริหารจัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
โดยมีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียร่วมกันกับลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ที่ค้างอยู่ และดำเนินกิจการต่อไปได้ ปัจจุบันบริษัทมีนโยบายบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ NPLs ประเภทลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจและลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก และสำหรับธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (Non-Performing Asset : NPA)
เป็นการซื้อหลักประกันลูกหนี้ NPLs ของบริษัทที่เกิดจากการประมูลขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี หรือจากการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ของลูกหนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเป็นหลัก โดยงวดสิ้นปี 2564 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 735.82 ล้านบาท มีสัดส่วนการลงทุนต่อสินทรัพย์รวม ดังนี้ NPLs สินเชื่อธุรกิจ 46.28% NPLs สินเชื่อที่อยู่อาศัย 30.58% และ NPA 2.96%
KCC มีทุนชำระแล้ว 310 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 460 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 160 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 150.32 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 3.88 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 5.80 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 22 และ 25-26 เมษายน 2565 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.70 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 592 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,294 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/BV) ที่ 5 เท่า โดยคำนวณจากมูลค่าทางบัญชีสุทธิสิ้นสุดปี 2564 ของบริษัท 460.61 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ 620 ล้านหุ้น จะได้มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น 0.74 บาท (Fully Diluted Book Value per Share) โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ทั้งนี้ KCC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มบุญบรรเจิดศรี ถือหุ้น 52.07% และนายทวี กุลเลิศประเสริฐ ถือหุ้น 22.32% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท