BIS เปิดเทรดวันแรก 11บาทต่อหุ้น ราคาพุ่ง 83%
BIS เข้าเทรดในตลาด mai วันแรกพุ่ง เปิดตลาด11.00บาท เด้ง83% ขึ้นไปสูงสุด แตะ11.20บาท นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นสะพัด
ผู้สื่อข่าวรายงานบริษัท ไบ โอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด(มหาชน) หรือBIS เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ( mai) วันนี้ โดยเปิดตลาดที่ 11.00บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 83.3% จากราคจองซื้อ (IPO)ที่ 6.00 บาท
ทั้งนี้ BIS และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงโดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตหรือขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยมีการนำเข้าจากผู้จัดจำหน่ายชั้นนำกว่า 13 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และจีน เป็นต้น ปัจจุบันมีสินค้าจัดจำหน่ายกว่า 470 รายการ แบ่งเป็น 6 กลุ่ม และมีสัดส่วนรายได้ในปี 2564
ดังนี้ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาและป้องกันโรคสำหรับสัตว์ (Animal Health) 27% 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition) 17% 3) กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยโรค (Diagnostic) 22%
4) กลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredient) 15% 5) กลุ่มอาหารเม็ดสำเร็จรูป (Complete Feed) 18% และ 6) ผลิตภัณฑ์อื่น 1% โดยมีกลุ่มลูกค้าสำหรับปศุสัตว์ ได้แก่
โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์และร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ และกลุ่มลูกค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ โรงพยาบาลและคลินิกรักษาสัตว์ ร้านจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง และร้านค้าปลีกสมัยใหม่
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดจำหน่ายจะมีทั้งผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าของคู่ค้า ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัทโดยเป็นการว่าจ้างผลิต และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัทเอง โดยในปี 2564 มีสัดส่วนรายได้เท่ากับ 81 : 17 : 2 ตามลำดับ
BIS มีทุนชำระแล้ว 157 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 220 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 94 ล้านหุ้น
โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 70.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 14.1 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อบุคคลผู้มีความสัมพันธ์ และพนักงานของบริษัท 9.4 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 25 - 28 เมษายน 2565 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 6 บาท
คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 564 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,884 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 27.45 เท่า
โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ) ซึ่งเท่ากับ 68.63 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ทั้งนี้ BIS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ บริษัท บีไอเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 33.03% และนายสัตวแพทย์ ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ถือหุ้น 8.87% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมบริษัทและบริษัทย่อย (Consolidated) และพิจารณาร่วมกับงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทฯ