กาแฟดริป ‘แบรนด์ไทย’ ราคาต่ำคุณภาพพรีเมี่ยม

กาแฟดริป ‘แบรนด์ไทย’ ราคาต่ำคุณภาพพรีเมี่ยม

หมออนามัยใช้เวลาว่างหันมาผลิตกาแฟดริปแบล็ค แบบแฮนด์เมด ออกจำหน่ายแบบกล่องสุ่ม โดยเน้นการพรีออกเดอร์เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ ได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟที่สดใหม่

ที่จังหวัดพิจิตร นายณัฐวุฒิ วีระกุล วัย 45 ปี หมออนามัยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลแห่งหนึ่ง ในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ใช้เวลาว่างจากการทำงาน ผลิตกาแฟดริปแบล็คแฮนด์เมดจำหหน่าย ต่อยอดจาการขายกาแฟแบบดริป ตามสถานที่ต่างๆในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์
              โดยนายณัฐวุฒิ วีระกุล เปิดเผยแรงบันดาลใจ ในการผลิต กาแฟดริปแบล็คแฮนเมด พร้อมดื่มจำหน่าย เนื่องจากเห็นว่าผู้คนไม่อยากออกจากบ้านเนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด รวมถึงกลุ่มที่ชอบเดินทาง ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆหลังรัฐบาลเปิดประเทศมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่ชอบดื่มกาแฟ จะได้มีกาแฟ แบบดริปพร้อมดื่มติดตัวไป
             นายณัฐวุฒิ เปิดเผยอีกว่ากาแฟที่ตนเอง ผลิต จะสั่งมาจากเกษตรกร ทั่วประเทศของไทย โดยเฉพาะตามดอยต่างๆหลากหลายสถานที่ เมื่อได้เมล็ดกาแฟดิบมาก็จะคัดเอาเมล็ดที่ด้อยคุณภาพ หรือเมล็ดเสียออกให้หมด เพราะเมล็ดกาแฟที่ด้อยคุณภาพเหล่านี้จะทำให้รสชาติกาแฟเสียไป หลังจากนั้นจึงนำมาคั่วด้วยมือ โดยต้องมีการควบคุบอุณหภูมิให้เหมาะสม กับกาแฟที่ต้องการ โดยการกาแฟที่เหมาะสำหรับดริป จะต้องเป็นการคั่วอ่อน หรือคั่วกลาง เพราะจะให้รสชาติกาแฟแต่ละดอย ออกมาอย่างเต็มขีดความสามารถ ซึ่งกาแฟแต่ละสถานที่ก็มีรสชาติที่และความหอมเฉพาะตัวแตกต่างกันไป เมื่อคั่วจนได้ที่และทำให้เย็นโดยการฟัดแบบข้าว ให้เมล็ดกาแฟโดนอากาศ หลังจากนั้น ก็จะนำกาแฟที่เย็นแล้วมาคั่วบดละเอียดใส่ซองแบบพร้อมนำไปชงดริปได้ทันที

 กาแฟที่ตนเองเลือกใช้จะเป็นกาแฟไทยล้วน มี 2 เกรดคือกาแฟเกรดธรรมดาและกาแฟเกรดฟรีเมี่ยม อย่างตระกูลฮันนี่เป็นต้น โดยจะทำขายเฉพาะแบบพรีออเดอร์เท่านั้น เพื่อให้ได้กาแฟที่ใหม่สด และจำหน่ายเป็นแบบกล่องสุ่ม คือใน 1 เพคเกจ จะมีกาแฟแบบซองพร้อมดื่มที่มีแหล่งที่มา อย่างน้อย 3-5 สถานที่ เพื่อให้ดื่มด่ำและรับรสชาติใหม่ๆของกาแฟไทยจากดอยต่างๆเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยที่ปลูกกาแฟตามดอยต่างๆได้เท่าเทียมกัน
              สำหรับซองบรรจุภัณฑ์ นายณัฐวุฒิ ยังใช้ฝีมือการวาดเขียนของตนเองวาดและเขียนด้วยลายมือตนเองทุกซอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรน คือระเกะระกะ คาเฟ่ เป็นฟร้อนภาษาญี่ปุ่นแต่ตัวหนังสือไทยอยู่ริมซอง พร้อมชื่อกาแฟจากดอยต่างๆอยู่ด้านล่าง ส่วนราคาขายนายณัฐวุฒิ บอกว่า ราคาไม่แพง โดยจะคิดราคาตามต้นทุนของเมล็ดกาแฟ บวกค่าแรงนิดหน่อย เท่านั้น ไม่ต้องมีค่าการตลาด ค่าโฆษณา ค่านายหน้า ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงกาแฟ ระดับฟรีเมี่ยมได้ในราคาถูก