SAWAD ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ BFIT

SAWAD ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ BFIT

SAWAD ปรับกลยุทธ์หลักของ BFIT ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ SAWAD ถือหุ้นอยู่ 81.6% โดย BFIT จะส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน ได้แก่

i) กิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ ii) กิจการเงินทุนเพื่อการพัฒนา iii) กิจการเงินทุนเพื่อการจำหน่ายและการบริโภค และ iv) กิจการเงินทุนเพื่อการเคหะ  ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป BFIT จะเข้าไปซื้อ Srisawad Capital (SCAP) (บริษัทลูกที่ SAWAD ถือหุ้น 65%) โดยการแลกหุ้น (share swap) ซึ่งในการนี้ BFIT จะเพิ่มทุนจาก 2.75 พันล้านบาท เป็น 6.50 พันล้านบาท (มูลค่าพาร์ 5 บาท/หุ้น) เพื่อซื้อ SCAP จาก SAWAD

 

ซื้อกิจการโดยการแลกหุ้น – BFIT จะเพิ่มทุนจาก 551 ล้านหุ้น เป็ น 1,301 ล้านหุ้น @ 24 บาท/หุ้น เพื่อซื้อ SCAP จาก SAWAD

การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะเป็นธุรกรรมที่ไม่ใช้เงินสด โดย BFIT จะเพิ่มทุนเพื่อเข้าไปซื้อหุ้น 100% ใน SCAP โดยการแลกหุ้น ซึ่ง BFIT จะนำหุ้นที่เกิดจากการเพิ่มทุนอีก 750 ล้านหุ้นไปชำระให้กับผู้ถือหุ้น
ของ SCAP (SAWAD ถือ 65%, ผู้บริหารของ SCAP ถือ 10% และอื่น ๆ 25%) โดยคิดเป็นราคาเทียบเท่ากับ 24.00 บาท/หุ้น

 

SCAP ให้บริการสินเชื่อลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคล

ในปัจจุบัน SCAP บริหารธุรกิจโดยใช้บริษัทลูกสองแห่ง (S-Leasing และ Cathy) ซึ่งมีพอร์ตสินเชื่อรวม
5.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นสองกลุ่ม (สินเชื่อลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ 3.9 พันล้านบาท และสินเชื่อส่วน
บุคคล 1.5 พันล้านบาท) ทั้งนี้ กำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 325 ล้านบาท (yield เฉลี่ยของพอร์ตอยู่ที่
ป ระมาณ 30%, ต้นทุนทางการเงิน 4% และ NPLs 1%)

 

 

 

การเข้าซื้อกิจการ SCAP อ้างอิงกับ PE ที่ 22x ของประมาณการกำไรปี 2565F ของ SCAP

SCAP ตั้งเป้าจะขยายธุรกิจเชิงรุกในปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป โดยบริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่ไปประมาณ 2.5
พันล้านบาทใน 1Q65 และตั้งเป้าขยายสินเชื่อใหม่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำไรในปี
2565F อยู่ที่ 797 ล้านบาท ตามข้อมูลที่มีการแจ้ง SET ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อกิจการที่ 1.8 หมื่นล้านบาท คิด
ราคาเป็น PE ที่ประมาณ 22x ซึ่งสูงกว่า PE เฉลี่ยของบริษัทในกลุ่ม non-bank ที่ KGI ศึกษาอยู่

 

ธุรกิจของ BFIT จะเปลี่ยนไปจากเดิม

SAWAD อธิบายว่ามีเนื่องจากมีความไม่ยืดหยุ่น และข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงตัดสินใจคืน
ใบอนุญาตธุรกิจเงินทุนทั้งสี่ใบของ BFIT ให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และจะยื่นขอ
ใบอนุญาตใบใหม่สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล

 

แนวโน้มระยะสั้นของ SAWAD ยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอน และราคาที่เข้าไปซื้อ SCAP

ดีลนี้ยังต้องรอให้ ธปท. อนุมัติในสองเรื่อง ได้แก่ i) การเพิ่มทุน และ ii) การคืนใบอนุญาต ซึ่งหากธปท.
ไม่อนุมัติ จะมีผลดีลการซิ้อกิจการ SCAP

 

Risks

NPL เพิ่มขึ้น และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น, ดีลที่ BFIT จะเข้าไปซื้อ SCAP