MAJOR - ฟ้าเปิดแล้ว (วันที 6 พฤษภาคม 2565)

จากรายชื่อภาพยนตร์แข็งแกร่งตามฤดูกาลและความกังวลโควิดลดลง โมเมนตัมกำไรที่จะดีขึ้นตลอดปี เราจึงมองการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นในไตรมาสต่อๆมา   

 

การฟื้นตัวเพิ่งเริ่มใน 1Q22

เราคาด MAJOR มีกำไร 34 ลบ. ใน 1Q22 พลิกจากขาดทุน 119 ลบ. ใน 1Q21 แต่ลดลงจากกำไร 100 ลบ. การฟื้นตัว yoy เป็นผลจากรายได้สูงขึ้นจากรายชื่อภาพยนตร์แข็งแกร่งและการกลับมาดำเนินงานโรงภาพยนตร์ตามการผ่อนคลายข้อบังคับโควิด อย่างไรก็ตามกำไรลดลง qoq เป็นผลจากรายชื่อภาพยนตร์อ่อนแอลงตามฤดูกาลและความกังวลโควิด สมมติฐานหลักของ 1Q22 มีดังนี้; i) รายได้รวม 1.2 พันลบ. +41% yoy แต่ -23% qoq กำไรสูงขึ้น yoy เป็นผลจากรายได้จากโรงภาพยนตร์สูงขึ้น ทั้งในส่วนค่าเข้าชมและรายได้ขายสินค้า (concession) จากรายชื่อภาพยนตร์ดีขึ้นและความกังวลโควิดลดลง ส่วนการลดลง qoq เป็นผลจากรายชื่อภาพยนตร์อ่อนแอลงในแง่ qoq เป็นผลจากฤดูกาลและความกังวลโควิดมากขึ้น; ii) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 26.2% จาก 12% ใน 1Q21 เนื่องจากบริษัทได้ประโยชน์จากอัตราทดการดำเนินงาน (operational leverage); iii) แม้รายได้สูงขึ้นแต่ค่าใช้จ่าย SG&A ทรงตัว qoq จากการควบคุมต้นทุนเข้มงวดขึ้น

คาดกำไรแข็งแกร่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

หากกำไรออกมาใกล้เคียงคาดการณ์ กำไร 1Q22 คิดเป็นเพียง 5% ของคาดการณ์ทั้งปีของเรา แต่เราคงคาดการณ์ทั้งปีเนื่องจากเรามองว่ากำไรจะสูงขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จากรายชื่อภาพยนตร์ที่ดีตามฤดูกาลและความมั่นใจในการเข้าชมภาพยนตร์มากขึ้น เนื่องจากอาการโควิดรุนแรงน้อยลง ภาพยนตร์บล็อคบลัสเตอร์ใน 2Q22 ได้แก่ “Doctor Strange in the Multiverse of Madness”, “Top Gun”, “Jurassic World” และ “Transformers” ส่วน 3Q22 ได้แก่ “Thor” และ “Mission Impossible” รวมถึง “Avatar II” ใน 4Q22 

 

คงคำแนะนำ ซื้อ และ TP 26 บาท

ราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เรามองว่าราคายังสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกใน 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากรายชื่อภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง และความกังวลโควิดลดลง เราคงคำแนะนำ ซื้อ และ TP 26 บาท