ดร.นิเวศน์ แนะลงทุน"หุ้นแวลู" เลี่ยง หุ้นGrowth Stock ช่วงตลาดผันผวนขาลง

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนคุณค่า หรือ VI เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า ตลาดหุ้นไทยโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเป็นไปได้น้อย เพราะ พื้นฐานไม่ค่อยดี จากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า เข้าสู่สังคมสูงวัย กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)อิ่มตัว  และมีปัจจจัยเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน มีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ทำให้เงินเฟ้อสูง และ ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น รวมถึงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกก็ปรับตัวลงมาเร็วที่คาด

 ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวทำให้การลงทุนในหุ้นต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้นลงทุนในหุ้นแวลู ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีความสามารถในการแข่งกัน เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ราคาไม่แพง มีค่าP/E 10-20 เท่า  และเน้นหุ้นที่ปันผลสูง มีผลตอบแทนเงินปันผลที่ 2-3%ต่อปี  โดยควรหลีกเลี่ยงหุ้นโกรสสต็อก และหุ้นที่มีราคาแพง  เพราะในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง จะส่งผลให้หุ้นโกรสสต็อกและหุ้นที่มีราคาแพงปรับตัวลงแรง 
 

 สำหรับหุ้นไทยที่ผันผวนขาลงนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของตนเองมากนัก เพราะเน้นถือหุ้นแวลู ซึ่งจะเคลื่อนไหวไปตามปัจจัยพื้นฐาน และยอดขายยังดี สามารถสู้กับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีได้ เพราะ บริษัทจะขายสินค้าที่มีความจำเป็น ทำให้พอร์ตของตนเองยังคงมีกำไรอยู่แต่ไม่ได้มาก  

"ช่วงที่ตลาดหุ้นเปลี่ยนทิศจากปัจจัยไม่เอื้อ  ดอกเบี้ยขึ้น  เศรษฐกิจไม่ดี เงินเฟ้อสูง  มีปัญหาสงครามทำให้หุ้นโกรสตกต่ำ จากที่ผ่านมาขึ้นไปเยอะ แต่หุ้นแวลูก็จะเคลื่อนไหวไปตามพื้นฐาน  ยังค้าขายได้ เพราะเขาขายสิ่งที่จำเป็นการดำเนินชีวิต "
 

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมานั้นไม่ได้เข้าไปซื้อเพิ่ม เพราะ ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นแวลูแต่จะไปเพิ่มการลงทุนในประเทศเวียดนาม เพราะ ในช่วงหลังๆ หุ้นแวลูในไทยไม่โดดเด่น จึงไปเพิ่มลงทุนในตลาดเวียดนาม เพราะ มีหุ้นแวลูจำนวนมาก และเศรษฐกิจเติบโตดี แต่ก็ไม่ได้เงินลงทุนมากนัก  
สำหรับพอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน ยังลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 70% ลงทุนเวียดนามประมาณ25% และถือเงินสดประมาณ 5%

"แม้หุ้นไทยจะขึ้นช้า แต่ตนเองก็ยังคงลงทุนอยู่ เพราะ ถือว่ายังเป็นการลงทุนที่ดีกว่าเงินฝาก ได้ผลตอบแทนที่รวมปันผลที่ระดับ5-6% ต่อปีถือว่าดี แต่ก็มีการกระจายการลงทุนในเวียดนาม"