“อาคม”ลงนามตั้งบอร์ดสอบท่อส่งน้ำอีอีซี ขีดเส้น 20 พ.ค.นี้

“อาคม”ลงนามตั้งบอร์ดสอบท่อส่งน้ำอีอีซี ขีดเส้น 20 พ.ค.นี้

“อาคม” เซ็นตั้ง ”วิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย” ประธานสอบโครงการระบบท่อส่งน้ำอีอีซี กำหนดโจทย์ 3 ข้อ คือ การประมูลโปร่งใสหรือไม่ ตรวจสอบทรัพย์สินก่อนส่งมอบ และ รายได้สอดคล้องปริมาณส่งน้ำหรือไม่ ขีดเส้นส่งผล 20 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 9 พ.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในคำสั่งที่ สส 3/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพื่อทำหน้าที่ ดังนี้ 1.ตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 2.ตรวจสอบทางกายภาพระบบท่อส่งน้ำ สถานีสูบน้ำ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบและรับมอบ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการจัดทำระบบสาธารณูปโภคและหรือผู้ใช้น้ำ

3.พิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ารายได้ที่นำส่งเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพียงใดโดยให้รายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงการคลังทราบภายในวันที่ 20 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ ในหนังสือการแต่งตั้งคณะกรรมการ ดังกล่าวระบุว่า ด้วยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจัดให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์  2535 และวันที่ 12 ก.ย.2535

โดยได้จัดทำสัญญากับบริษัท กำหนดระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2537 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566 ต่อมาบริษัท ได้เปลี่ยนสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน และโครงการที่อยู่ระหว่างจัดทำสัญญาเช่า 2 โครงการ คือ โครงการหนองปลาไหล - หนองค้อ และโครงการหนองค้อ - แหลมฉบัง (ระยะที่ ๒)

โดยได้กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทบริหารจัดการ และชำระค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์กรมธนรักษ์ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการได้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกทั้ง 3 โครงการ ตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 กฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2564 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการคัดเลือกเอกชนเพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกิน 500 ล้านบาท พ.ศ.2564

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 คณะกรรมการที่ราชพัสดุได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้บริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ดังกล่าว โดยให้สิทธิการบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี

จึงได้กำหนดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2565 และได้มีการเลื่อนการลงนามสัญญาโครงการๆ เนื่องจากปรากฏตามสื่อสารมวลชนต่างๆ ว่า ยังมีข้อสงสัยในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องดังกล่าว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่ม โดยพระราชบัญญัติระเบียบ

บริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

โดยคณะกรรมการประกอบด้วย 1.นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ 2.นายปิยกร อภิบาลตรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง  รองประธานกรรมการ 3.นายวิรัช เกตุนวม หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กรมธนารักษ์ เป็นกรรมการ

4.นายดนัย วิจารณ์ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมธนารักษ์ เป็นกรรมการ

5.นายศุภชัย ตั้งวัฒนากร ผู้อำนวยการ กองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ เป็นกรรมการ 6.นายชรินทร เข็มราช นิติกรชำนาญการพิเศษ เป็นกรรมการ 7.นายอาทร ยงกิตติธรากุล เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ชำนาญการพิเศษ เป็นกรรมการและเลขานุการ

8.นายพัฒน์พงษ์ อินทร์มั่น เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ชำนาญการพิเศษ ผู้ช่วยเลขานุการ 9.นายสยาม โพธิ์เกิด นายช่างสำรวจอาวุโส ผู้ช่วยเลขานุการ และ 10.นายนพดล ธรรมโม นิติกรชำนาญการ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์