ESSO ประมาณการ 1Q65F: กำไรจะทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสใหม่

ESSO ประมาณการ 1Q65F: กำไรจะทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสใหม่

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ ESSO ใน 1Q65F จะอยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท (+120% YoY, +718% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้ง YoY และ QoQ จะมาจาก accounting GRM ของ ESSO (รวมกำไร/ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน)

ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ US$22.8/bbl ใน 1Q65F เพิ่มขึ้นถึง 94% YoY และ 209% QoQ เนื่องจากเราคาดว่ากำไรจากสต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 พันล้านบาท จากการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นจาก US$73/bbl ในเดือนธันวาคม 2564 เป็น US$111/bbl ในเดือนมีนาคม 2565 ในขณะที่ spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น US$17.8/bbl, US$16.2/bbl และ US$19.6/bbl ใน 1Q65 ตามลำดับ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 130KBD เนื่องจาก crack spread ของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นอยู่ในระดับที่ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจการตลาดน้ำมันจะลดลง QoQ เนื่องจากกรมธุรกิจพลังงานรายงานว่าปริมาณยอดขายน้ำมันของ ESSO ลดลง 2% QoQ เหลือ 1,295 ล้านลิตร ซึ่งคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันดีเซลลดลงจากการที่ ESSO กำหนดราคาขายแพงกว่าของ PTT Oil and Retail Business (OR.BK/OR TB)* และ Bangchak Corporation (BCP.BK/BCP TB)* เล็กน้อยในเดือนมกราคม เรายังคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันของ ESSO จะลดลงQoQ ตามค่าการตลาดอ้างอิง (benchmark margin) ของประเทศไทยที่ลดลง 12%QoQ เหลือ 1.55 บาท/ลิตร ในขณะเดียวกันอัตราการใช้กำลังการผลิต PX ของบริษัทน่าจะยังอยู่ที่ 0% เนื่องจากมีการปิดโรงงาน PX เต็มรูปแบบเป็นการชั่วคราวตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา

 

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565/66F ขึ้นอีก 57%/5%

ในบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของเราที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 เราได้ปรับเพิ่มประมาณการ
กำไรสุทธิของ ESSO ปีนี้ขึ้นอีก 57% เป็น 6.6 พันล้านบาท และปีหน้าขึ้นอีก 5% เป็น 4.7 พันล้านบาท
เนื่องจากเราปรับเพิ่มสมมติฐาน accounting GRM ของ ESSO ปี 2565F ขึ้นอีก 42% เป็น US$8.0/bbl
และปี 2566F ขึ้นอีก 9% เป็น US$8.5/bbl ซึ่งสมมติฐาน accounting GRM ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่
เราปรับสมมติฐานต่อไปนี้ด้วย i) ปรับ spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลขึ้นใน
ปี 2565F เป็น US$16.0/12.0/16.0/bbl และในปี 2566F เป็น US$14.0/14.0/14.0/bbl ตามลำดับ และ ii) ปรับราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565/66F ขึ้นเป็น US$90/75/bbl เนื่องจากอุปทานน้ำมันตึงตัวขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ ESSO และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 12.00 บาท อิงจาก adjusted
EV/EBITDA ที่ 6.5x โดยเราเชื่อว่าผลประกอบการที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 1Q65F จะช่วยหนุน
ราคาหุ้น และเนื่องจากเรามองบวกกับแนวโน้มธุรกิจโรงกลั่น เราจึงยังคงเลือก ESSO เป็นหุ้นเด่นของเรา
ในกลุ่มพลังงาน

 

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และค่าการตลาดน้ำมัน