GFPT ตีปีก! อนาคตสดใส "ราคาไก่-ยอดส่งออกพุ่ง"
เข้าสู่ฤดูประกาศผลประกอบการงวดไตรมาสแรกของปี แม้จะยังมีสารพัดปัจจัยกดดัน ทั้งสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ไปจนถึงเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างรรัสเซียยูเครน แต่ปรากฏว่าหลายบริษัททำผลงานได้น่าพอใจ
อย่างเช่นกลุ่มอาหารสดที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว จากราคาสินค้าเนื้อสัตว์ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ “เนื้อไก่” โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยระบุว่า ราคาไก่หน้าฟาร์มในประเทศช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 37.7 บาท/กก. เพิ่มขึ้นราวๆ 20% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ 31.5 บาท/กก.
และไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ 31.2 บาท/กก. เป็นไปตามต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังสงครามระหว่างรัสเซียยูเครนทำให้วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์หลายชนิดขาดแคลน
ขณะที่ล่าสุดราคาไก่ในประเทศยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือนเม.ย. เพิ่มเป็น 46.2 บาท/กก. ด้านราคาส่งออกค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาเช่นกัน ตลาดหลักอย่างญี่ปุ่นราคาส่งออกอยู่ที่ 4,800 ดอลลาร์/ตัน เทียบกับช่วงสิ้นปี 2564 ที่ 4,600 ดอลลาร์/ตัว ส่วนตลาดอียูราคาส่งออกเพิ่มเป็น 3,900 ดอลลาร์/ตัว
สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทยคาดว่า ปีนี้ไทยจะส่งออกไก่ทั้งหมด 940,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วง 2 ปีก่อนหน้าที่ 933,261 ตัน และ 937,833 ตัน ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกอันดับ 1 ยังเป็นญี่ปุ่น 450,000 ตัน อียูและสหรัฐ 270,000 ตัน และตลาดอื่นๆ อีก 220,000 ตัน รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เงินบาทที่อ่อนค่า
โดยขณะนี้ความต้องการเนื้อไก่ยังสูง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ ประกอบกับการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู (ASF) ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อหมูลดลง หันมาบริโภคเนื้อไก่มากขึ้น
รวมทั้ง หลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ทำให้ไทยสามารถส่งออกไปอังกฤษได้โดยไม่ติดโควต้าการส่งออกไปยุโรป นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีหลังซาอุดิอาระเบียไฟเขียวกลับมานำเข้าไก่จากไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
โดยมีการตั้งเป้าว่าปีนี้ไทยจะส่งออกไก่ไปซาอุดิอาระเบียทั้งหมด 300 ตู้ หรือ 6,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 400-500 ล้านบาท และภายใน 5 ปี จะส่งออกเพิ่มเป็น 60,000 ตัน มูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท
จากราคาไก่ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หนุนผลประกอบการโตแกร่ง นำโดยบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ประเดิมโกยกำไรงวดปีแรกไปทั้งหมด 455.73 ล้านบาท พุ่งกระฉูด 651% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 60.61 ล้านบาท
บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG มีกำไรทั้งหมด 618.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.84% จากงวดปีก่อนที่ 445.48 ล้านบาท ด้านบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กำไรลดลงเหลือ 2.84 พันล้านบาท จากงวดปีก่อน 6.94 พันล้านบาท เนื่องจากราคาหมูในเวียดนามและจีนที่ปรับตัวลดลง
บรรดากูรูสำนักต่างๆ ยกให้ GFPT เป็น Top Pick ประจำกลุ่ม โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 18.70 บาท มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรปี 2565 หลังงบไตรมาส 1 ออกมาดีกว่าคาด จึงปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 26.5% เป็น 1,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 718.7% จากปีก่อน เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่สูงกว่าคาด
ด้านบล.เอเชีย เวลท์ ปรับประมาณการรายได้รวมปี 2565-2566 ขึ้นปีละ 8% เป็น 15,986 ล้านบาท และ
16,967 ล้านบาท ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ และปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565-2566 เป็น 14% และ 14.3% จากเดิม 12% และ 13% จากราคาขายที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้น 54% และ34% เป็น 1,345 ล้านบาท และ 1,469 ล้านบาท ตามลำดับ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ปี 2565 ยังปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ราคาวัตถุดิบจะปรับขึ้นเฉลี่ย 5-8% จากไตรมาสก่อน แต่สามารถหักล้างได้จากปริมาณการส่งออกที่คาดสูงขึ้นเป็น 8,000 ตัน เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และ 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ราคาไก่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 11% ราคาส่งออกปรับ ขึ้น 5%-8% จากไตรมาสก่อน สะท้อนถึงความต้องการที่สูงขึ้น และหากแนวโน้มราคาวัตถุดิบสามารถทรงตัวหรือปรับลงได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 หนุนกำไรทำจุดสูงสุดของปี