"เดอะ สแตนดาร์ด" เชน รร.ใต้ปีก แสนสิริ ลุยขยายเครือข่าย รับทัวริสต์ฟื้นเร็ว

"เดอะ สแตนดาร์ด" เชน รร.ใต้ปีก แสนสิริ ลุยขยายเครือข่าย รับทัวริสต์ฟื้นเร็ว

เครือโรงแรม “เดอะ สแตนดาร์ด” ใต้ปีกยักษ์อสังหาฯไทย “แสนสิริ” ปลุกลงทุนหลังโควิด เร่งปักธงขยายเครือข่ายธุรกิจโรงแรมในไทยศูนย์กลางท่องเที่ยวแห่งภูมิภาค เตรียมเปิด 2 แบรนด์เรือธง “เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” และ “เดอะ เภรี โฮเต็ล สุขุมวิท” รับดีมานด์ทัวริสต์ฟื้นเร็ว

มหาวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ “โรงแรม” เป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะช่วงที่นานาประเทศ “ล็อกดาวน์” อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ประเทศต่างๆ ทยอยลดข้อจำกัดการเดินทางมากขึ้น

ขณะที่ “สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชันแนล” (Standard International) บริษัทแม่เครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) ซึ่งมีทุนยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ของไทย บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 62% มั่นใจศักยภาพประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางแห่งภูมิภาคอาเซียน ผลักดันเครือโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ รองรับการฟื้นตัวของดีมานด์นักท่องเที่ยวทั่วโลก

นายอมาร์ ลัลวานี่ ประธานกรรมการบริหาร Standard International  กล่าวถึงแผนการขยายโรงแรมเครือเดอะ สแตนดาร์ดฯ ในประเทศไทยช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2566-2570 จะมุ่งขยายเครือข่ายโรงแรม เน้นการรับบริหารเป็นหลัก สำหรับแบรนด์ “เดอะ สแตนดาร์ด” ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์โฮเทล ตั้งเป้าหมายปักธง 4 เมืองท่องเที่ยวในไทยเพิ่มเติม ได้แก่ ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ และพัทยา หลังจาก 2 แห่งแรก ได้เปิดให้บริการโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน เป็นแห่งแรกในไทย เมื่อเดือน พ.ย.2564 มีขนาด 199 ห้องพัก ผลการตอบรับดีมาก เฉพาะเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 70% สูงสุดนับตั้งแต่เปิดโรงแรมมา ส่วนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย.2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 72% และสามารถทำราคาขายห้องพักได้ในระดับ 6,500 บาท/ห้อง/คืน

ส่วนแห่งที่ 2 ในไทย โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ขนาด 155 ห้องพัก เตรียมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปีนี้ นับเป็นโรงแรมระดับเรือธง (Flagship) ของแบรนด์ เดอะ สแตนดาร์ด ในเอเชีย โดยได้จับมือเป็นพันธมิตรกับคิง เพาเวอร์ กรุ๊ป ในการนำแบรนด์ดังกล่าวมาเสริมความโดดเด่นแก่อาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร แลนด์มาร์กใจกลางกรุงเทพฯซึ่งมีขนาด 78 ชั้น สูงเป็นอันดับต้นๆ ของไทย คาดมีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวยุโรปและสหรัฐ หลังจากมีโรงแรมระดับเรือธงในยุโรปที่กรุงลอนดอน

 

++ เปิด “เดอะ เภรี” ในเอเชียอีก 5-10 แห่ง

ส่วนอีกแบรนด์หลัก “เดอะ เภรี โฮเต็ล” (The Peri Hotel) เป็นแบรนด์โรงแรมสไตล์บูติกโฮเทล ที่มีภาพลักษณ์ดู Casual หรือไม่เป็นทางการมากกว่าแบรนด์เดอะ สแตนดาร์ด ปัจจุบันเปิดให้บริการในไทยแล้ว 2 แห่ง คือ หัวหิน และเขาใหญ่ ซึ่งมีแสนสิริเป็นเจ้าของ มีอัตราการเข้าพักดีมากจากตลาดลูกค้าคนไทย 

ล่าสุดเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมเดอะ เภรี โฮเต็ล แบงค็อก สุขุมวิท ราวปี 2567-2568 มีขนาดประมาณ 200 ห้องขึ้นไป เจ้าของเป็นนักลงทุนรายอื่น ตั้งอยู่บนสุดยอดโลเกชั่นในซอยสุขุมวิท 24 โดยจะชูเป็นโรงแรมระดับเรือธงของแบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ล

“นอกจากนี้ยังมองการขยายแบรนด์เดอะ เภรี โฮเต็ล เพิ่มอีก 5-10 แห่งในไทยและโลเกชั่นอื่นๆ ที่มีศักยภาพในเอเชีย เช่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ รวมถึงบาหลี อินโดนีเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์”

 

++ ชี้โลกเปิด ท่องเที่ยวฟื้นเร็วและแรง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากเมืองและประเทศต่างๆ เริ่มทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ลอนดอน เม็กซิโก มัลดีฟส์ และรัฐเท็กซัส สหรัฐ พบว่าทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมในเครือฯฟื้นตัวดี ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตินี้

“พอธุรกิจโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการได้หลังปลดล็อกดาวน์ พบว่าดีมานด์นักท่องเที่ยวพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว อย่างโรงแรมในไมอามี่ เท็กซัส และเม็กซิโก มีผลการดำเนินงานดีกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ด้วยซ้ำ และมองว่าถ้าในประเทศนั้นๆ มีข้อจำกัดด้านการเดินทางท่องเที่ยวที่ค่อนข้างต่ำ จะช่วยทำให้ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวเป็นอย่างดีและเร็วขึ้น”

นอกเหนือจากกระแสการเข้าพักแล้ว รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ก็เติบโตได้ดีเช่นกันเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าหลักของเครือฯคือนักท่องเที่ยวกลุ่มท่องเที่ยวและพักผ่อนทั่วไป (Leisure) ซึ่งฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่มเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยเฉพาะโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน ลูกค้าท้องถิ่นนิยมมาใช้ห้องอาหารกินดื่มและสเตย์เคชั่นที่โรงแรม ขณะที่ธุรกิจการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์และงานแต่งงานก็มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว เพราะผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง

ทั้งนี้ เครือเดอะ สแตนดาร์ดฯ ได้เปิดให้บริการโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง กระจายในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ได้แก่ โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน เมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนนอกประเทศไทยมีเปิดให้บริการโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด อิบิซ่า ประเทศสเปน เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐ

ส่วนการขยายโรงแรมใหม่แห่งอื่นๆ ในเครือเดอะ สแตนดาร์ดฯ ยังเป็นไปตามแผนเดิมในช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะมีที่สิงคโปร์ และเมลเบิร์น ส่วนในยุโรปมีที่เมืองดับลิน บรัสเซลส์ มิลาน และลิสบอน ขณะที่ในแถบอเมริกาเหนือจะมีที่โทรอนโต แคนาดา และฮูสตัน สหรัฐ เป็นต้น

 

++ เล็งปักธง “เรสซิเดนส์” เจาะคนรุ่นใหม่

ในปี 2566 เครือเดอะ สแตนดาร์ด มีแผนบุกตลาดที่พักอาศัยในรูปแบบเรสซิเดนส์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรม แต่ไม่ใช่โรงแรม รองรับตลาดเข้าพักระยะยาว เตรียมเปิดให้บริการ “เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนส์” ที่แรกในไมอามี่ สหรัฐ และแห่งที่ 2 คือ ลิสบอน โปรตุเกส ติดอยู่กับโรงแรมที่กำลังจะเปิดให้บริการแต่แยกส่วนกัน ทั้งนี้ หากมีโอกาส ทางเครือฯ ต้องการขยายโครงการเรสซิเดนส์ที่ไทยด้วยเช่นกัน

“เราเตรียมรุกตลาดเรสซิเดนส์ เป็นเพราะผู้คนที่เคยสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ต่างหลงรักแบรนด์นี้ รักดีไซน์ รู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน ไม่ได้อยากออกไปนอกโรงแรม จึงมองว่าแล้วทำไมเราไม่สร้างเป็นเรสซิเดนส์เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่ม First Jobber มีไลฟ์สไตล์ยืดหยุ่น สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ นับเป็นโอกาสที่ดีในการจับลูกค้ากลุ่มนี้ โดยทางเครือฯจะเข้าไปช่วยรับบริหารเรสซิเดนส์แก่นักลงทุนหรือดีเวลลอปเปอร์ รุกขายห้องพักแบบระยะยาว ไม่ได้ทำเป็นโรงแรม”

\"เดอะ สแตนดาร์ด\" เชน รร.ใต้ปีก แสนสิริ ลุยขยายเครือข่าย รับทัวริสต์ฟื้นเร็ว \"เดอะ สแตนดาร์ด\" เชน รร.ใต้ปีก แสนสิริ ลุยขยายเครือข่าย รับทัวริสต์ฟื้นเร็ว