ทำใจ! อุปทานโลกตึงตัว ดันราคา "น้ำมันพืช" พุ่งต่อ กระทบธุรกิจไหนบ้าง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย อุปทานโลกตึงตัว ดัน "ราคาน้ำมันพืช" พุ่งต่อ คาดราคา น้ำมันปาล์มบรรจุขวด เฉลี่ยทั้งปี 2565 อยู่ที่ 65-68 บาท/ขวด เพิ่มขึ้น 35-41% พร้อมเผยแนวโน้ม ธุรกิจไหนบ้างเตรียมรับแรงกระแทก!
ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุถึง "ราคาน้ำมันพืช" ในตลาดโลกปี 2565 ยังมีแนวโน้มขยับขึ้น จากปัญหาอุปทานตึงตัวจากความตึงเครียดระหว่าง สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลกอย่างอินโดนีเซีย ท่ามกลางสถานการณ์สินค้าทดแทนที่มีจำกัด และอุปสงค์ในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะความต้องการจากผู้ซื้อรายใหญ่อย่างอินเดียและจีน
นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยในประเทศ ได้แก่ ความต้องการน้ำมันพืชหลักในไทยยังอยู่ในระดับสูง ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันของไทยที่ใกล้จะหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว สต็อกปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลืออยู่ในระดับต่ำกว่า Safety Stock และต้นทุนการผลิตที่ขยับสูงขึ้น ซึ่งกดดันราคานำมันพืชในไทยด้วย
จากปัจจัยข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงที่เหลือปี 2565 ราคาน้ำมันพืชหลักในไทยอย่าง น้ำมันปาล์ม ยังมีโอกาสขยับสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 และทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (สำเร็จรูปบรรจุขวด) เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 65-68 บาท/ขวด (1ลิตร) เพิ่มขึ้น 35-41%YoY จากปี 2564 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 48.12 บาท/ขวด ภายใต้สมมติฐานที่ว่าอินโดนีเซียอาจจะกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มโอเลอีนได้อีกครั้ง ผลผลิตปาล์มน้ำมันของมาเลเซียจะทยอยออกมาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 และรัสเซียน่าจะส่งออกน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวันได้ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวครึ่งหลังปี 2565
ส่วนราคาน้ำมันพืชในไทย แม้จะยืนสูงแต่อาจไม่ได้เร่งตามต้นทุนที่แท้จริงเพราะภาครัฐขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ช่วยตรึงราคาน้ำมันพืชสำเร็จรูปบรรจุขวดไว้หรืออยู่ในโครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในกำหนด
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ไตรมาส 2/2565 ราคาน้ำมันปาล์ม น่าจะเพิ่มต่อเนื่อง มาสู่ระดับราคา 68-70 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันพืชโลกที่ขยับขึ้นหลังอินโดนีเซียระงับการส่งออก รวมถึงเป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- ราคาน้ำมันพืชพุ่งต่อ กระทบธุรกิจไหน?
สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมันพืชสูงขึ้น นอกจาก ครัวเรือน และ ร้านอาหาร แล้ว
ในส่วนของ อุตสาหกรรมอาหารที่ใช้น้ำมันพืชในสัดส่วนสูง อาทิ ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไอศกรีม นมข้นหวาน ครีมเทียม และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบางอย่าง ซึ่งทำให้สินค้าในหมวดดังกล่าวมีโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้น
สำหรับประเด็นต้องจับตาในช่วงที่เหลือของปีนี้ คือ วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนที่จะส่งผลต่อสถานการณ์พลังงาน ธัญพืชและน้ำมันพืชในตลาดโลก ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ระยะเวลาการกลับมาส่งออกของอินโดนีเซีย การเร่งเพิ่มกำลังการผลิตของมาเลเซียหลังเปิดประเทศ สต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือของไทย และมาตรการแก้ปัญหาด้านอุปทานในตลาดของภาครัฐ
อ้างอิง : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย