THG ลุยธุรกิจใหม่ - ปิดดีล รพ.ในอุดรธานี สร้างฐานลูกค้าดันรายได้โต

THG ลุยธุรกิจใหม่ - ปิดดีล รพ.ในอุดรธานี สร้างฐานลูกค้าดันรายได้โต

"ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป" รุกลงทุนธุรกิจใหม่ หวังขยายฐานรายได้ ดันเติบโตต่อเนื่อง เน้นธุรกิจด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต จ่อปิดดีลซื้อ รพ. จังหวัดอุดรธานี ไตรมาส 3/ 65 เพื่อตอบโจทย์การเติบโต

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์เพื่อให้ธุรกิจพลิกกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง !! และหนึ่งในนั้นคือ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ตัดสินใจใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท !! เพื่อลงทุนรองรับ “ผู้ติดเชื้อโควิด-19” ทั้งการให้บริการในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งการให้บริการฉีดวัคซีนภาครัฐ และวัคซีนทางเลือก 

สะท้อนผ่านผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 มี “กำไรสุทธิ” 552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน “ขาดทุนสุทธิ” 223 ล้านบาท โดยมีรายได้ 3,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.4% จากงวดเดียวกันที่ทำได้ 1,566 ล้านบาท 

“นายแพทย์บุญ วนาสิน” ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ในปี 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ดังนั้น บริษัทต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง สอดรับแผนลงทุนใน “ธุรกิจใหม่” (New Business) เข้ามาเสริมทัพสร้างการเติบโตทดแทนรายได้จากโควิด-19 

ล่าสุดเปิด “ศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด-ติดสุราเรื้อรัง” ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขในการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดคาดว่าอีก 1-2 เดือนจะได้ใบอนุญาต และดำเนินการได้ โดยเบื้องต้นบริษัทมีเป้าหมายจับ “ตลาดคนไข้ต่างชาติ” ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญารับคนไข้ต่างชาติเข้ามารักษาแล้วประมาณ 60-70 ราย หลักๆ จะเป็นประเทศแถบยุโรป เช่น ออสเตรเลีย , อังกฤษ , สวิตเซอร์แลนด์  เป็นต้น 

โดยเบื้องต้นคนไข้ต่างชาติที่เข้ามารักษาในบรรยากาศจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด - ติดสุราเรื้อรัง หลังได้รับใบอนุญาตประมาณไตรมาส 4 ปี 2565 และคาดว่าจะเปิดให้บริการในจังหวัดภูเก็ตในปี 2566 ขณะที่ในพัทยา จังหวัดชลบุรี และกรุงเทพมหานคร (กทม.) คาดว่าจะเปิดให้บริการลูกค้าคนไทย 

“เรามองเห็นช่องการสร้างรายได้ใหม่จากตลาดผู้ป่วยที่ต้องการได้รับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด-ติดสุราเรื้อรัง และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยเฉพาะตลาดต่างชาติที่มีความต้องการรับการรักษาเรื่องดังกล่าวค่อนข้างมาก” 

THG ลุยธุรกิจใหม่ - ปิดดีล รพ.ในอุดรธานี สร้างฐานลูกค้าดันรายได้โต นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนในประเทศ สปป.ลาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงพยาบาลจำนวน 100 เตียง โดยเป็นโรงพยาบาลไม่ใหญ่มาก ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ “ชาวจีน” ที่คาดว่าจะเดินทางมาด้วยรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงจับมือกับพันธมิตรชาวจีนในการลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ในสปป.ลาว เพื่อรองรับความต้องการ (ดีมานด์) ลูกค้าชาวจีนอย่าง ศูนย์การมีบุตรยาก , ศูนย์สเต็มเซลล์ (stem cell) เป็นต้น คาดว่าโรงพยาบาลดังกล่าวจะเปิดดำเนินการไตรมาส 4 ปี 2565 

อย่างไรก็ตาม หากมีคนไข้ต้องการรักษาโรคซับซ้อนหรือร้ายแรง บริษัทมีแผนลงตัวต่อมารักษาในประเทศไทย เนื่องจากขับรถจากสปป.ลาว มาจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สะท้อนผ่านแผนการลงทุน “ซื้อกิจการ” (M&A) โรงพยาบาล ขนาด 250 เตียง ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งปัจจุบันกำลังเจรจาซื้อกิจการอยู่ 2  แห่ง คาดว่ามูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท คาดจะได้ข้อสรุปดีลดังกล่าวภายในไตรมาส 3 ปี 2565 เพื่อต้องการให้สอดรับกับแผนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลในสปป.ลาว 

“หมอบุญ” บอกต่อว่า แนวโน้มผลดำเนินงานปี 2565 คาดว่าจะดีกว่าปี 2564 เนื่องจากบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการต่อยอดธุรกิจการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด-ติดสุราเรื้อรัง และการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งยังคงให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างครบวงจร ทั้งในส่วนของการป้องกันการรักษา และการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังติดเชื้อ พร้อมทั้งขยายการบริการ สร้างฐานลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยการนำเสนอบริการใหม่ๆ เพื่อขยายขีดความสามารถในการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย โดยมุ่งเน้นให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที 

นอกจากนี้ ยังคงให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก และวัคซีนของภาครัฐผ่านทางเครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 18 โรงพยาบาล ซึ่งได้ให้บริการไปแล้วมากกว่า 500,000 โดส รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ออนไลน์ และแผนการซื้อธุรกิจเพื่อนำมาเสริมทัพ

ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลเดิม คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีก่อน เนื่องจากคนไข้ต่างชาติเริ่มทยอยกลับมามากขึ้น ยิ่งเฉพาะคนไข้ ยุโรป , อาหรับ บ่งชี้ผ่านตัวเลขสัดส่วนคนไข้ต่างชาติในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วน 40-50% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่สัดส่วนคนไข้ต่างชาติอยู่แค่ 5-10% เท่านั้น โดยคาดว่าปลายปี 2565 ธุรกิจโรงพยาบาลจะกลับมาปกติเหมือนก่อนมีโควิด-19 แล้ว และโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจำนวนมากก็จะมีผลดำเนินงานกลับมาเติบโตโดดเด่นเฉกเช่นเดิม 

สำหรับการลงทุน “โครงการโรงพยาบาลธนบุรี รังสิต” มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 2,700 ล้านบาท เป็นโรงพยาบาลประเภทตติยภูมิจำนวน 250 เตียง ยังดำเนินการต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวจะดำเนินงานภายใต้บริษัทร่วมทุนที่จะจัดตั้งใหม่ มีผู้ถือหุ้นจำนวน 4 ราย ได้แก่ THG ถือหุ้น 30% บริษัทโรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM ถือหุ้น 40% กลุ่มแพทย์ ถือหุ้น 20% และบริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ถือหุ้น 10%

ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะมีการลงนามในสัญญาข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้น ร่วมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ดำเนินการโอนที่ดิน และชำระค่าหุ้นภายในเดือนมิ.ย.2565 จากนั้นจะดำเนินการออกแบบ ดำเนินการยื่นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และขออนุญาตการก่อสร้าง คาดจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนมิ.ย. 2566 และพร้อมเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 1 ปี 2568 

ขณะที่โรงพยาบาลใหม่ที่ลงทุนช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีผลประกอบการดีขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาล ธนบุรี บำรุงเมือง คาดว่าจะเริ่มมีกำไรหลังปรับแผนดึงดูดกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น โดยเพิ่มขีดความสามารถด้วยการเปิดศูนย์ wellness รวมถึงให้บริการห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ดูแลสุขภาพผู้ป่วยหลังติดโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนเกี่ยวกับโรงพยาบาลผู้สูงอายุเพิ่มเติมอีก เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยอย่างสมบูรณ์ในปี 2565 

รวมทั้ง บริษัทมีแผนจะนำ Digital Platform เข้ามามีบทบาทในการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ อาทิ Telemedicine ที่จะพัฒนาให้ตอบสนองผู้ป่วยโรคเฉพาะทางมากขึ้น และอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนา Health Blockchain สำหรับจัดเก็บข้อมูลสุขภาพคนไข้เชื่อมโยงอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพ คาดจะได้เห็นความคืบหน้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง

ท้ายสุด “หมอบุญ” บอกไว้ว่า เรามีเป้าหมายเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง เน้นธุรกิจที่มีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในการเดินทางแก่ประชาชน และร่วมวิจัยพัฒนามาตรฐานกัญชงเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางการแพทย์

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์