ไทย-รัสเซีย พร้อมผลักดันการค้าสู่เป้าหมาย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า
ไทยหารือทวิภาคีรัสเซีย ผลักดันเอฟทีเอไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย พร้อมร่วมมือขับเคลื่อนการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ดันมูลค่าการค้าร่วมแตะ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า เตรียมประชุม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการหารือทวิภาคี (Bilateral discussions) กับนายมักซิม เรียชเชสนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจ สหพันธรัฐรัสเซีย ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งไทยจะเป็นจะเป็นเจ้าการประชุมครั้งที่ 5 โดยตนได้แจ้งให้รัสเซียทราบว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายหารือกันถึงช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ว่าจะจัดการประชุมครั้งที่ 5 เมื่อไหร่ ซึ่งรัสเซียยังสนับสนุนเป้าหมายทางการค้าที่ตกลงไว้ร่วมกันว่าในปีหน้าจะทำมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 10,000 ล้านดอลลาร์ แม้ปีที่แล้วไปได้เพียง 2,700 ล้านดอลลาร์ แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่เปลี่ยนเป้าหมาย โดยจะพยายามทำมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากที่สุด
ส่วนการทำเอฟทีเอไทย-สหภาพยูเรเซียซึ่งมี 5 ประเทศประกอบด้วย รัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย คาซัคสถานและคาร์กีซสถาน ซึ่งยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ แต่เนื่องจากเกิดปัญหาอุปสรรคในการประสานงาน เพราะประเทศไทยจำเป็นต้องใช้สถานทูตไทยในเจนีวา ในการประสานงานส่วนบางประเทศในกลุ่มสหภาพยูเรเซียไม่ได้มีสถานทูตอยู่ในประเทศไทยและรัสเซีย โดยสถานทูตเจนีวาของไทยจะเป็นผู้ช่วยกันประสานงานเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนรัสเซียได้ขอให้ไทยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นรวมทั้งขอให้นักท่องเที่ยวรัสเซียสามารถใช้บัตรที่เรียกว่า MIR Card และให้มี Direct Flight หรือเที่ยวบินตรง เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ตนได้แจ้งให้ทราบว่าสำหรับการใช้ MIR Card นั้นธนาคารไทยบางธนาคารมีความสนใจและมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น ที่เหลือเป็นรายละเอียดของภาคเอกชนที่จะไปดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการ ส่วนในเรื่องการจัด Direct Flight เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวระหว่างกันจะแจ้งให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงคมนาคมได้รับทราบต่อไป
ส่วนด้านการค้าการลงทุนนั้น รัสเซียสนใจนำเข้าสินค้าจากไทย โดยเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับอาหารและยานยนต์เป็นหลัก อาหารมีทั้งข้าวผลไม้ เป็นต้น และชิ้นส่วนยานยนต์ และด้านการลงทางรัศเซียสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยโดยเฉพาะด้านไอทีพร้อมกับเชิญชวนให้นักลงทุนได้ เข้าไปลงทุนในรัสเซียด้วย
สำหรับตัวเลขการค้าไทย-รัสเซีย รัสเซียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 30 ของประเทศไทยโดยปี2564 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2,700 ล้านดอลลาร์ ประเทศไทยส่งออกไปรัสเซียปีที่แล้ว 1,027 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% สินค้าที่ไทยส่งออกไปรัสเซียประกอบด้วยรถยนต์ อุปกรณ์ชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกล ผลไม้ เช่น ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แปรรูป เป็นต้น สำหรับการค้ากับรัสเซียเราขาดดุลเพราะต้องนำเข้าน้ำมันดิบ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชและเหล็กมาใช้ในการผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม