SKN ราคาหุ้นยัง Underperform (25 พ.ค. 2565)
บริษัทมีรายได้ 1Q22 เท่ากับ 1,047.2 ล้านบาท -34.8%QoQ เนื่องจากรอบเรือขนส่งใน 4Q21 มีมากกว่าปกติ ทำให้ส่งสินค้าได้ปริมาณมาก ส่งผลให้รายได้เป็นฐานสูง แต่หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้ยังเติบโต +40.5%YoY
มีสาเหตุหลักมาจากราคาขายสินค้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับค่าเงินอ่อนค่าลง ด้านอัตรากำไรขึ้นต้นทำได้ที่ระดับ 45.9% ลดลงจาก 46.9% ในไตรมาสก่อน จากราคาวัตถุดิบสารเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคา น้ำมันดิบ แต่ดีขึ้นจาก 30.8% ใน 1Q21 เนื่องจากมีการปรับเพิ่มราคาขาย และอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่าเป็นหลัก ในส่วนของ SG&A/Sales อยู่ที่ระดับ 23.0% ลดลงเล็กน้อยจาก 24.5% ใน 4Q21 ตามปริมาณ การส่งออกที่ลดลง แต่ยังเพิ่มขึ้นจาก 20.7% ใน 1Q21 จากราคาค่าขนส่งทางเรือที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1Q22 เท่ากับ 224.5 ล้านบาท ลดลง -29.0%QoQ แต่ยังเติมโต +159.5%YoY
- ผลประกอบการปี 22 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มผลประกอบการปี 22 เราคาดว่าจะกลับมาสู่ระดับปกติอีกครั้ง หลังจากวัฏจักรการ Restock สินค้าในหลายประเทศได้ผ่านไปแล้วในปีก่อน ขณะที่ค่าขนส่งทางเรือ และต้นทุนวัตถุดิบสารเคมียังทรงตัวในระดับสูงกดดันอัตรากำไรขึ้นต้น ซึ่งคาดว่าเงินบาทที่อ่อนค่า จะสามารถชดเชยได้บางส่วน ด้านการลงทุนในย่อย (SKN Kraft and Paper Company Limited) เพื่อประกอบธุรกิจนำกระดาษที่ใช้แล้วมาคัดแยกพลาสติกและโลหะออก และนำไปผ่านกระบวนการบดและปั่นแห้ง เพื่อผลิตเป็นเยื่อกระดาษและกระดาษ คาดจะสามารถรับรู้รายได้ได้ในปี 24 (ยังไม่รวมในประมาณการ) เราคงประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 22 ไว้ที่ระดับเดิมที่ 3,111.2 ล้านบาท และ 444.2 ล้านบาท ลดลง -25.5%YoY และ -43.0%YoY
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 22 เท่ากับ 10.50 บาท
แม้ผลการดำเนินงานในปี 22 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากปีก่อน และราคาวัตถุดิบยังทรงตัวในระดับสูง แต่ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมายังคง Underperform ประเมินมูลค่าโดยอิง Average PE+1SD ที่ 18.8 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 22 ที่ 10.50 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 28%
ปัจจัยเสี่ยง
i) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบไม้
ii) ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
iii) ผู้บริโภคหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ประเภทอื่น