สสว. ดัน "SMEชัวร์" ผู้ซื้อมั่นใจได้อุดหนุนรายย่อย ชงครม. ผุด "ช็อป SME มีคืน"
สสว. จับมือกลุ่มห้างค้าปลีกรายใหญ่ เดินหน้าโครงการ "SME ชัวร์" ติดตราสัญญลักษณ์รับรองความเป็นเอสเอ็มอี เพิ่มโอกาสการตลาดสร้างความเชื่อมั่นผู้ซื้อได้ช่วยอุดหนุนรายย่อย เตรียมชงครม. โครงการ "ช็อป SME มีคืน" ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจเอสเอ็มอี
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. เตรียมเดินหน้าโครงการ “SME ชัวร์” ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ กลุ่มซีพี เซเว่นอีเลฟเว่น แม็คโคร เทสโก้โลตัส กลุ่มเซ็นทรัล ท็อปส์ B2S กลุ่มเดอะมอลล์ สยามพารากอน กลุ่มทีซีซีกรุ๊ป บิ๊กซี สถานีบริการน้ำมันและร้านกาแฟ Café Amazon ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ
ด้วยการติดตราสัญลักษณ์ “SME ชัวร์” ที่ชั้นวางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองความเป็นเอสเอ็มอี จาก สสว. ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ๆ รวมถึงผู้ที่วางขายสินค้าในห้างค้าปลีกอยู่แล้ว เพื่อจูงใจและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ทันทีว่าได้อุดหนุนสินค้าของเอสเอ็มอีไทย
โดยเป้าหมายของโครงการ นอกจากเป็นการสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้าจากเอสเอ็มอีแล้ว เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนเอสเอ็มอีรายใหม่ๆ ในธุรกิจค้าปลีกให้มากขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการขายและมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนผู้ประกอบการที่ขายสินค้าในห้างค้าปลีกอยู่แล้ว เมื่อได้รับการรับรองความเป็นเอสเอ็มอี จาก สสว. ก็จะได้โอกาสในตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ จัดให้ เช่น กลุ่มตลาด CLMV ตลาดประเทศจีน
ขณะเดียวกันจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนซัพพลายเออร์ที่เป็นเอสเอ็มอีของห้างค้าปลีกให้เพิ่มมากขึ้น คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้เอสเอ็มอีพลิกฟื้นธุรกิจ และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่จะได้รับการรับรองความเป็นเอสเอ็มอี จาก สสว. ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ หากเป็นกิจการในภาคการผลิตต้องมีรายได้รวมไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี หากเป็นกิจการในภาคการค้าและบริการ ต้องมีรายได้รวมไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อปี
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองแล้ว ยังมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่ สสว. ได้ดำเนินโครงการไปแล้ว อาทิ ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ตลาดออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานสินค้าจากโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ของ สสว. และรับสิทธิในการเข้ารับการอบรม พัฒนาและยกระดับศักยภาพจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าของเอสเอ็มอีอีกด้วย
นอกจากนี้ สสว. ยังได้วางแผนต่อยอดความช่วยเหลือ โดยจะนำเสนอมาตรการ “ช็อป SME มีคืน” ต่อรัฐบาลภายในปีนี้ โดยมีแนวคิดเบื้องต้นจะกำหนดให้ผู้ที่ซื้อสินค้า “SME ชัวร์” วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้
"ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและเตรียมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำเสนอบอร์ดบริหาร สสว. และบอร์ดส่งเสริม SME ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป”