คอนโดจ่อเทคออฟ!รับเปิดประเทศเจาะ20ทำเลฮอตผุดโครงการใหม่
สัดส่วนคอนโดใหม่ที่พลิกมามีส่วนแบ่ง65.2% แซงบ้านจัดสรรที่ลดลงเหลือ 34.8%ครั้งแรกในรอบ 2 ปีหลังเกิดโควิด-19 สะท้อนการฟื้นตัวของคอนโดจ่อเทคออฟ!รับมาตรการเปิดประเทศ-หน้ากากกลางเดือนมิ.ย. ไตรมาสแรกปี65คอนโดใหม่พุ่งขึ้นใน20โซนฮอต"บางนา"ยืนหนึ่ง
“วิชัย วิรัตกพันธ์” ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีของอสังหาฯ เริ่มผงกหัวขึ้น จากช่วงโควิดที่ลดลงมา100 จุดลงเหลือ 68 จุด ปัจจุบันกลับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ86 จุดหมายความว่า อสังหาฯเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา สอดคล้องกับการคาดการณ์นักเศรษฐศาสตร์สถาบันการเงินต่างๆ ตรงกับคาดการณ์ของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯว่า ตลาดจะมีการขยายตัวตามโมเดลที่ประมาณการณ์ไว้ที่9.1% เป็นการคาดการณ์สถานการณ์ที่เป็นไปอย่างปกติที่ควรจะเป็น (Base Case)แต่ต่อให้เป็นกรณีที่เลวร้าย( Worst Case)ก็ยังมีการขยายตัวอยู่ที่ 3.4 ต่างจากปี2564ที่ติดลบ6 % สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์เริ่มดีขึ้นในปีนี้เห็นได้จากการฟื้นตัวของตลาดที่คาดการณ์ไปจนถึงสิ้นปี65
“สิ่งหนึ่งที่สะท้อนการฟื้นตัวคือยอดขายคอนโดและบ้านแนวราบโดยเฉพาะคอนโดมีการปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯมีการลงทุนมากขึ้น ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากดัชนีราคาคอนโดไตรมาสแรกปีนี้เริ่มขยับขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่สะท้อนว่า เป็นสัญญาณบวกของตลาด”
สำหรับการเปิดตัวคอนโดใหม่ในกรุเทพฯและปริมณฑล เดือนม.ค. 65 ที่ผ่านมามีจำนวนประมาณ 7,200ยูนิตเทียบกับเดือนม.ค.2564 พบว่า มีการเพิ่มขึ้น 1,000% เนื่องจากไม่มีการเปิดตัว หากย้อนหลังในปี2563 ที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 จะพบว่า ตัวเลขการเปิดตัวคอนโดใหม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย8,300ยูนิต ในช่วงก่อนเกิดโควิดค่อนข้างมาก แต่ล่าสุดในเดือนก.พ. 65 มีการเปิดโครงการ 7,200ยูนิต และในเดือนมี.ค.เปิดอีก 6,000 ยูนิต
“จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสต็อกคอนโดเริ่มหมด สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำก็คือสร้างสต็อกใหม่ ประกอบกับสถานการณ์ความเชื่อมั่นคนดีขึ้นทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯกล้าที่เปิดโครงการใหม่ถึง 7,200ยูนิตต่อเดือน ซึ่งมูลค่าในการเปิดโครงการคอนโด ต่อเดือนกว่า 2,000ล้านบาท”
วิชัย ระบุว่า หลังจากเกิดโควิด-19 ผู้ประกอบการอสังหาฯในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดตัวโครงการคอนโดในเมืองน้อยลง ทั้งนี้เนื่องจากราคาคอนโดในเมืองมีระดับราคาสูง ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เป็นลูกค้าหลักส่วนหนึ่งหายไปจากตลาดทำให้มีการเปิดตัวน้อยลง แต่หันไปลงทุนเปิดตัวโครงการคอนโดโซนที่อยู่ในนอกเมืองมากขึ้น
โดยทำเลที่เปิดตัวมากที่สุด ได้แก่ 1 .บางนา 2.ห้วงขวาง3. บางซื่อ 4 .จตุจักร 5 .เมืองปทุมธานี 6. ดอนเมือง 7. สวนหลวง 8.บางพลัด 9.บางพลี 10.บางเขน 11.พญาไท 12.บางกอกน้อย 13. วังทองหลาง 14.ประเวศ15.คลองหลวง16.บางกรวย17.พระโขนง18.บางใหญ่ 19.หลักสี่ 20. บางกะปิ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ทำให้เกิดการเปิดเมืองค่อนข้างเยอะและเปิดเป็นคอนโดค่อนข้างมาก
“ตรงนี้เองเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราเชื่อว่าในปีนี้ จะมีคอนโดที่เปิดใหม่กว่า 30,000ยูนิต ส่วนหนึ่งเป็นคอนโดที่ระดับราคาจับต้องได้ และส่วนหนึ่งเป็นคอนโดราคาแพง ที่อยู่ในเมือง(ซีบีดี)ทำให้เห็นว่าผู้พัฒนาโครงการคอนโดปรับตัว คาดว่า การเปิดตัวคอนโดในปีนี้จะมีมูลค่ากว่า1 แสนล้านบาท"
ด้านยอดขายใหม่ของคอนโดในปีนี้คาดการณ์ว่าจะขายได้41,000ยูนิตคิดเป็นมูลค่า166,000 ล้านบาท กรณีสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างปกติที่ควรจะเป็น (Base Case)หรืออาจจะมากกว่านี้หากเป็นสถานการณ์ดีที่สุด (Best case)นั่นหมายความว่ายูนิต และมูลค่าการขายน่าจะขายเพิ่มขึ้นได้ 30-40% แปลว่า คอนโดฟื้นกลับมาแล้ว !!
โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำเลห้วยขวาง ระดับราคา3-5ล้านบาทขายได้มากสุดกว่า 1,300 ยูนิต เขตบางรัก มีคอนโดระดับราคา10ล้านขึ้นไปจำนวน179 ยูนิตมูลค่า3,790 ล้านบาท รองลงมาเป็นระดับราคา 5-7.5ล้านบาทจำนวน104 ยูนิตมูลค่า731ล้านบาท เขตวัฒนาช่วงสุขุมวิท ระดับราคา 7.5-10ล้านบาทขายได้มากที่สุดคิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เขตปทุมวัน ราคา5-7.5ล้านบาทขายได้ 124 ยูนิตมูลค่ากว่า 800ล้านบาท และราคา10ล้านบาทขึ้นไปมีมูลค่าการขายกว่า 2,000 ล้านบาท สะท้อนว่า คอนโดเริ่มขายได้มากขี้นจริงในช่วงไตรมาสแรกปี65
“พื้นที่ในซีบีดีมีจำนวนจำกัด มีจำนวนยูนิตเลือกน้อย ราคาที่ดินแพง ราคาต่อยูนิต ต่อตร.ม.สูง ในส่วนของยูนิตการขายไตรมาสแรกในซีบีดีแยกตามราคาและทำเล คอนโดเหลือขายประมาณหลัก100 ยูนิตเท่านั้นไม่เหมือนโซนบางนาที่เหลือจำนวน5,000 ยูนิต หรือโซนในสมุทรปราการหรือลาดกระบังจะเป็นคอนโดราคาถูก มีจำนวนเยอะ จับตลาดแมส”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องและเร็วกว่าที่คาดการณ์โควิด-19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น โดยนำร่องกิจกรรมในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ “โควิด-19” อย่างปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน
โดยประมาณกลางเดือนมิ.ย. จะนำร่องยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย ในบางพื้นที่ รวมถึงการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้คนเริ่มมีความมั่นใจกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยรวมถึงการซื้ออสังหาฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสี่อีกครั้ง คาดว่า เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญหนึ่งที่ทำให้คอนโดกลับมาTake off !