"อลิอันซ์ อยุธยา" สานต่อความยั่งยืน ตั้ง "ธนาคารอาหารออนไลน์" แห่งแรกของไทย
"อลิอันซ์ อยุธยา" เดินหน้าสานต่อความยั่งยืน ตั้ง "คลาวด์ ฟู้ด แบงก์" ธนาคารอาหารออนไลน์แห่งแรกในไทย แก้ปัญหาขาดแคลนอาหาร ลดปัญหาขยะเหลือทิ้ง วางเป้าปี 65 จัดสรรอาหารส่วนเกินไปสู่ผู้รับบริจาคได้ 10 ล้านมื้อ
"We secure your future" คำสัญญาของ กลุ่มอลิอันซ์ ที่ไม่ได้มีให้เฉพาะลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการสร้างความมั่นคงทางด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนด้วย โดย อลิอันซ์ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมผลักดันให้เกิดเครือข่ายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก The Net-Zero Asset Owner Allianz ซึ่งได้รับการรับรองโดยองค์การสหประชาชาติ และเป็นหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนการจัดตั้ง COP26 โดยกลุ่มอลิอันซ์ ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ จากการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มอลิอันซ์ที่มีอยู่กว่า 70 ประเทศทั่วโลก ภายในปี 2573
สำหรับที่ประเทศไทย อลิอันซ์ อยุธยา ขานรับแนวนโยบายด้านความยั่งยืนนี้ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นตั้งแต่ตัวพนักงาน ผ่านการส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การแยกขยะ การแยกเศษอาหาร รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อชุมชนต่างๆ และในส่วนขององค์กรนั้น ก็ได้มีการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานเพื่อสังคม ในการสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและสามารถช่วยเหลือชุมชนได้มากขึ้น
มร.โทมัส วิลสัน ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มอลิอันซ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า อลิอันซ์ อยุธยา ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดมั่นในหลักการ ESG (Environment, Social และ Governance)
โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้หลายคนประสบปัญหาเรื่องรายได้และความเป็นอยู่ อลิอันซ์ อยุธยา ได้สนับสนุนอาหารให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วกรุงเทพฯ ทำให้มองเห็นถึงความต้องการอาหารของผู้ประสบปัญหา และมองหาพันธมิตรช่วยกันแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารและลดขยะ จึงได้ร่วมมือกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (มูลนิธิเอสโอเอส) ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มุ่งทำภารกิจเพื่อลดปริมาณการสูญเสียอาหาร โดยนำอาหารส่วนเกินไปบริจาคให้แก่ผู้ที่ต้องการ โดยในปีนี้ได้ตัดสินใจที่จะลงทุนเงินจำนวนประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อขยายความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืนขึ้น
คลาวด์ ฟู้ด แบงก์ (Cloud Food Bank) แพลตฟอร์มธนาคารอาหารออนไลน์ ถือเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ อลิอันซ์ อยุธยา ให้การสนับสนุน มูลนิธิเอสโอเอส โดยจัดตั้งขึ้น เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ที่ต้องการบริจาคอาหาร และกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารมาเจอกัน โดยมีมูลนิธิเอสโอเอส (SOS Thailand) เป็นตัวกลางในการจัดสรรการรับและการส่งต่ออาหารอย่างเป็นระบบครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นอีกกลไกหนึ่งในการลดปัญหาอาหารเหลือทิ้ง โดยตั้งเป้าปีแรกส่งต่ออาหารส่วนเกิน 600 ตัน
"ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกส่วนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน เพราะการจัดการอาหารส่วนเกิน นอกจากจะเป็นการลดขยะอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยลดโลกร้อน เพราะอาหารส่วนเกินหากไม่ได้กำจัดอย่างถูกวิธี ปล่อยให้เป็นขยะจะมีก๊าซมีเทน ซึ่งทำลายชั้นบรรยากาศ เกิดภาวะโลกร้อนได้ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันในเรื่องนี้" มร.โทมัส กล่าว
ปี 65 ส่งต่ออาหารส่วนเกิน 600 ตัน
ปัจจุบัน มีองค์กรผู้บริจาคอยู่ในระบบของมูลนิธิ SOS กว่า 700 องค์กร และมีผู้รับความช่วยเหลือกว่า 1,000 ชุมชน ทั่วประเทศ อลิอันซ์ อยุธยา เชื่อว่าเมื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งาน จะทำให้สามารถเพิ่มการรับและส่งต่ออาหารได้มากกว่าเดิมถึง 25% โดยปีนี้ตั้งเป้าการส่งต่ออาหารส่วนเกินไว้ที่ 600 ตัน ซึ่งนั่นหมายถึงการสร้างความเท่าเทียมให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนได้เพิ่มขึ้นผ่านการแจกจ่ายอาหารส่วนเกินคุณภาพสูงที่มีประสิทธิภาพ
มร.เจมส์ เลย์สัน กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (มูลนิธิเอสโอเอส) กล่าวว่า อาหารส่วนเกินที่ทางมูลนิธิดำเนินการเพื่อลดปริมาณการสูญเสียอาหารและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากขยะอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ระบบ SOS Cloud Food Bank จะทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพการจัดการได้เป็นเท่าทวีคูณ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงผู้บริจาคและผู้รับบริจาค การบริหารการจัดเก็บ และการส่งต่ออาหาร
SOS รับบริจาค 5 ตันต่อวัน
ณภัทร พงษ์แพทย์ หัวหน้างานฝ่ายโครงการ มูลนิธิเอสโอเอส กล่าวว่าในแต่ละปีกรุงเทพฯ มีการผลิตขยะอาหาร 9,000 ตันต่อปี ซึ่งยอมรับว่าการจัดการอาหารส่วนเกินในไทย เฉพาะกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาได้ทั้งหมดภายในปีเดียว ดังนั้น ความร่วมมือแพลตฟอร์มครั้งนี้ เป็นการช่วยจัดสรรอาหารส่วนเกินไปสู่ผู้ขาดแคลนได้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้ได้จัดการอาหารส่วนเกินไปแล้ว 8,000 ตัน โดยสามารถรับบริจาคอาหารได้วันละ 5 ตันต่อวัน ธนาคารอาหารออนไลน์จะทำให้เกิดความร่วมมือ มีพาร์ทเนอร์มากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าปีนี้สามารถจัดสรรอาหารส่วนเกินไปสู่ผู้รับบริจาคได้ 10 ล้านมื้อ โดย เอสโอเอส มีรถตู้เย็น อุณหภูมิ 3-4 องศาในการขนส่ง จัดส่งอาหาร มั่นใจว่าอาหารต่างๆ ปลอดภัย 100%
ขณะนี้ มีผู้เข้าร่วมเป็นผู้บริจาคโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ MK Restaurant Group, Hilton Hotels, Malee, Central Food Halls และ S&P เป็นต้น ผู้สนใจเป็นผู้บริจาคหรือรับบริจาคสามารถลงทะเบียนในระบบคลาวด์ ฟู้ด แบงก์ ได้ที่ cloudfoodbank หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 095-553-2795
ผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ เพื่อให้มูลนิธิสามารถตรวจสอบและติดต่อประสานงานได้ โดยปัจจุบันยังกำหนดให้ผู้รับบริจาคเป็นกลุ่มบุคคล เช่น หัวหน้าชุมชน องค์กรสาธารณะที่มีภารกิจในการดูแลผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
สำหรับประเภทอาหารที่ต้องการ ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารปรุงสำเร็จ ของว่าง (Boxset) ข้าวสาร เส้นก๋วยเตี๋ยว อาหารแห้ง ขนมปัง Bakery ผัก ผลไม้ นม นมผง ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์แช่แข็ง กระดูกไก่ ไข่ เต้าหู้ น้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องปรุงต่างๆ อาทิ น้ำมัน น้ำปลา น้ำส้มสายชู เป็นต้น