"วัชระ" ยื่น ป.ป.ช.สอบ "ซิโน-ไทย" กับพวกคดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม 20 ล้าน
"วัชระ" ยื่นร้อง ป.ป.ช.เข้าสอบ "ซิโน-ไทย" กับพวกคดีสินบนไทย-ญี่ปุ่นโรงไฟฟ้าขนอม 20 ล้านบาท ว่าขัดตามกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่
วันที่ 30 พ.ค.2565 เวลา 11.25 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายปกครอง สุวรรณดารา รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.
เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกรณีสินบนโรงไฟฟ้าขนอมกับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 , นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาตามกฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายอื่นใดหรือไม่
จากสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ป.ป.ช.คดีหมายเลขดำที่ 07-3-619/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 308-3-50/2562
มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2563 ไม่ฟ้องบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และตัวแทนผู้มีอำนาจรวม 3 ราย เพราะเห็นว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาในชั้นการไต่สวนไม่ตรงตัวบทกฎหมายตั้งแต่ต้นตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 ความผิดฐานเป็นผู้ให้สินบน
และตามคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท40/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อท55/2565 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2565 จำคุกเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย คือ นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ จำคุก 15 ปี , นายคณิน เมืองด้วง , นายอภิชาต สวัสดิรัตน์ และ พ.ต.ท.สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ จำคุกคนละ 7 ปี มีความผิดฐานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด คดีสินบนโรงไฟฟ้าขนอม
ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการไต่สวนใหม่กับผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 3 ราย คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) , นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทยฯ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการบริษัท ซิโน-ไทยฯ (ตำแหน่งขณะนั้น)
สำหรับนายราเกส กาเลีย ทราบว่าหลบหนีกลับประเทศอินเดียทันทีหลังจากที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลให้ดำเนินคดีในครั้งแรก จึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้รัฐบาลประเทศอินเดียส่งตัวนายราเกสฯกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป
อนึ่ง ในสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช.ระบุว่า “พิจารณาแล้วเห็นว่า ปรากฏตามข้อเท็จจริงและมีพยานหลักฐานยืนยันว่านายราเกส กาเลีย ได้นัดหมายกันให้มาพบนายภาคภูมิ ศรีชำนิ ในวันที่ 16 ก.พ.58เพื่อเข้ามารับเงินสดจำนวน 20 ล้านบาทที่ชั้น 25 สำนักงานใหญ่ บริษัท ซิโน-ไทยฯ มีผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอขนอม 4 ฝ่ายคือกรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ ชาวประมง และ อบต.เพื่อนำไปส่งมอบให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-4 ในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้มีการใช้ท่าเรือชั่วคราวและ/หรือให้เรือเข้าเทียบท่า เพื่อขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 5-6 เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-4 ในการเรียกรับเงินสินบน ถือเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในการกระทำความผิด เนื่องจากมีพฤติการณ์ในการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-4 ในการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
สำหรับคดีมีประเด็นต้องพิจารณาต่อไปว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-7 ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือไม่ อย่างไร
องค์คณะในการไต่สวนพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด แม้จะไม่มีมูลค่าความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน แต่การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบบริหารราชการแผ่นดินอย่างร้ายแรง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทย การกระทำของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และนายราเกส กาเลีย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนี่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.149 และ ม.157ประกอบ ม.86
ในตอนหนึ่งของคำพิพากษาศาลอาญาฯ ระบุว่า
"พยานทั้งสองเดินทางออกจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 12 นาฬิกา ของวันที่ 16 ก.พ.2558 นัดหมายพบกันที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อไปถึงพบชายชาวญี่ปุ่น 2 คน หนึ่งในนั้นเคยไปรับการแนะนำให้รู้จักกันมา ก่อนที่หน้างานโรงไฟฟ้าขนอมเพื่อให้เป็นผู้ประสานงานการรับเงินที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) อีก 1 คน เป็นชาวต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร หลังจากนั้นชายชาวญี่ปุ่นได้นำกระเป๋าเดินทางมาให้ 2ใบ เปิดกระเป๋าเดินทางทั้ง2ใบให้ดู พบว่าเป็นเงินจำนวนกระเป๋าละ 10 ล้านบาท แล้วปิดกระเป๋าพร้อมกับส่งมอบให้พยานทั้ง 2 เดินทางกลับ อ.ขนอม ทันที"
นายวัชระ กล่าวว่า เมื่อคำพิพากษาและจากสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.เป็นเช่นนี้จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตั้งเรื่องไต่สวนนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กก.ผจก.บริษัท ซิโน-ไทยกับพวกตามข้อเท็จจริงและฐานความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็วที่สุด ในส่วนจำเลยทั้ง 4 ที่ ป.ป.ช.ฟ้องเอาผิดว่ารับสินบน 20 ล้านบาท เป็นข้าราชการตำแหน่งไม่ใหญ่โตถูกศาลตัดสินจำคุก 7 และ 15 ปี
ขณะนี้ติดคุกอยู่โดยไม่ได้ประกันตัว สังคมจึงสงสัยว่าเหตุใดผู้จัดการให้เงินดังกล่าว ป.ป.ช.จึงไม่ฟ้องรวมในคราวเดียวเป็นคดีเดียวกัน เพราะสำนวนการไต่สวนเดิมแน่นหนาดีอยู่แล้ว ดังนั้นต้องติดตามดูว่า ป.ป.ช.จะฟ้องเมื่อใด ข้อหาอะไร จึงต้องมายื่นหนังสือทวงถามความยุติธรรมในครั้งนี้
อนึ่ง คำพิพากษานี้เป็นของศาลชั้นต้น คดียังไม่ถึงที่สุด จำเลยยังมีสิทธิ์อุทธรณ์ฎีกา ซึ่งต้องติดตามคำพิพากษาของศาลสูงต่อไป