พาณิชย์จับตาราคาสินค้ารายวัน ดูแลไม่ให้ขาดตลาด
พาณิชย์ สั่งจับตาสถานการณ์ ข้าว น้ำมันปาล์ม หมู ไก่ ไข่ แบบรายวัน หลัง 30 ประเทศทั่วโลกจำกัดการส่งออกอาหาร ย้ำดูแลสินค้าบริโภคในประเทศไม่ให้ขาด และประคองส่งออกได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาระบุมี 30 ประเทศทั่วโลก ที่ใช้มาตรการจำกัดการส่งออกอาหาร พลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ประเมิน สินค้าแต่ละตัวว่า มีสินค้าใดต้องจับตามอง เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในภาพรวมยังไม่มีสินค้าตัวใดน่าเป็นห่วงหรือเป็นปัญหา
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้กรมการค้าภายใน และกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภค อาหาร สินค้าเกษตร และสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งภายในประเทศและทั่วโลกแบบใกล้ชิด โดยมีการติดตามกันแบบรายวัน เพื่อดูแลให้มีปริมาณสินค้าเพียงพอสำหรับบริโภคภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็สามารถส่งออกสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างเหมาะสม
ปัจจุบันกรมได้ติดตามสินค้าสำคัญหลายรายการ โดยมีสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศ เช่น ข้าวสาร น้ำมันปาล์ม เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ มันสำปะหลัง อาหารแปรรูป รวมถึงสินค้าอื่นๆ ที่ไทยมีความจำเป็นต้องนำเข้ามาใช้ภายในประเทศ เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี ซึ่งมีการหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อบริหารจัดการอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้เกิดขาดแคลน และดูให้มีการส่งออก และรักษาระดับปริมาณสต็อกให้อยู่ในระดับเหมาะสม
แม้ประเทศไทยจะเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ และสามารถส่งออกสินค้าออกเป็นอันดับต้นของโลกได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ข้าวที่ส่งออกติด 1 ใน 3 ของโลก เนื้อไก่ส่งออกสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก รวมถึงน้ำมันปาล์ม มันสำปะหลัง แต่กรมฯ ก็ไม่ประมาท มีการติดตามสถานการณ์ตลอดแบบรายวัน เพราะในช่วงที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้สถานการณ์สินค้าทั่วโลกผันผวนอย่างมาก ก็จำเป็นที่จะต้องดูแลให้พี่น้องประชาชนไม่ได้รับผลกระทบมาก
ขณะเดียวกัน กรมก็ต้องสร้างสมดุลราคาดี และมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยต้องดูแลให้ภาคเอกชนสามารถขับเคลื่อนกลไกทางธุรกิจและเกิดการแข่งขันได้ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ รายงานข่าวแจ้งว่า
กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย ประกอบด้วย
1.ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม
2.ตัวแทนโรงงานสกัด
3.ตัวแทนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค
4.ผู้แทนการส่งออกน้ำมันปาล์ม
5.ภาครัฐ
ขึ้นมาติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศ หลังพบว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีการส่งออกเพิ่มขึ้นเกินหลักแสนตัน เพื่อติดตามเซฟตี้สต็อกให้เหมาะสม ไม่ให้ส่งออกมากไปจนเกิดปัญหาขาดแคลน ตลอดจนพิจารณาตัดสินใจกำหนดมาตรการต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ตรวจสต็อกน้ำมันปาล์มบริโภคที่โรงสกัดทุก 7 วัน เพื่อดูราคาทั้งราคาผลปาล์มและราคาน้ำมันขวดบริโภคให้มีเสถียรภาพ และป้องกันไม่ให้ขาดแคลนน้ำมันปาล์มบริโภคสำหรับพี่น้องประชาชน
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์