ททท.ลุยโรดโชว์ยุโรปครั้งแรกรอบ 2 ปี! ดึงทัวริสต์เที่ยวไทยปีนี้ 2.5 ล้านคน
บรรยากาศการเดินทางภายในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปลาย พ.ค.ที่ผ่านมา คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ เพราะนอกจากจะตรงกับช่วงซัมเมอร์ มีนักท่องเที่ยวต่างแดนทั้งฝั่งสหรัฐและในยุโรปเข้ามาเยือนแล้ว ยังได้อานิสงส์จากอีเวนต์กีฬาระดับโลก
ทั้งศึกฟุตบอล “ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก” รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างสโมสรลิเวอร์พูล กับ เรอัลมาดริด และศึกเทนนิสรายการ “เฟรนช์ โอเพ่น” ที่ยังคงทำการแข่งขันในขณะนี้ ทำให้ปารีสคึกคัก 24 ชั่วโมง สะท้อนภาพการปลดล็อก! ภาคท่องเที่ยวกลับมาเปิดเต็มรูปแบบ “นักท่องเที่ยวยุโรป” พร้อมออกเดินทาง!!
ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เมื่อเห็นสัญญาณบวกของตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป ททท.ได้จัดงาน “โรดโชว์” ส่งเสริมการขายที่ยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี! นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ประเดิมนำคณะภาคเอกชนท่องเที่ยวไทย 13 ราย ไปพบปะเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวรวม 171 ราย ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเบลเยี่ยม เมื่อ 23-25 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดย ททท.ได้นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของไทย เช่น แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลในเกาะกูด เกาะช้าง หัวหิน และพัทยา นอกเหนือจากภาคใต้ ซึ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวยุโรป นิยมเดินทางหนีหนาวเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงไฮซีซั่นปลายปี ผลตอบรับการจองจากโรดโชว์ 3 ประเทศครั้งนี้ มีเข้ามาแล้ว 2,000 คน จำนวน 4,000 รูมไนท์ คิดเป็นรายได้ 144 ล้านบาท
สานเป้าหมายรวม ดึงนักท่องเที่ยวจาก 3 ประเทศนี้มาเที่ยวไทยภายในปี 2565 ให้ได้ 4.78 แสนคน สร้างรายได้ 3.48 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัว 50% ทั้งในแง่จำนวนและรายได้เมื่อเทียบกับปี 2562
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส ททท.ตั้งเป้าปีนี้ที่ 3 แสนคน สร้างรายได้ 21,000 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มี 7.1 แสนคน สร้างรายได้ 42,000 ล้านบาท ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์ ตั้งเป้าปีนี้ 1.2 แสนคน สร้างรายได้ 9,600 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มี 2.3 แสนคน สร้างรายได้ 16,000 ล้านบาท และตลาดนักท่องเที่ยวเบลเยี่ยม ตั้งเป้าปีนี้จำนวน 58,000 คน สร้างรายได้ 4,200 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มี 1.14 แสนคน สร้างรายได้ 7,300 ล้านบาท
“การเริ่มต้นออกโรดโชว์ครั้งนี้สำคัญมาก ททท.ต้องรีบบุกขายสินค้าท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวซึ่งตรงกับไฮซีซั่นของไทยตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงออกท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งใหญ่ของคนในพื้นที่นี้ หลังจากรัฐบาลไทยผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศต่อเนื่อง ทำให้บริษัทท่องเที่ยวของยุโรปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวยุโรปเองก็ถูกล็อกดาวน์มา 2 ปี จึงมีความต้องการออกท่องเที่ยวนอกประเทศเช่นกัน”
หาก ททท.ไม่นำทัพเอกชนโรดโชว์ใน 3 ประเทศนี้ จะพลาดโอกาสในการช่วงชิงนักท่องเที่ยวยุโรป ในสถานการณ์ที่ประเทศคู่แข่งขยับทำการตลาดหลังโควิดคลี่คลายเช่นกัน!
โดยคู่แข่งที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวจาก 3 ประเทศดังกล่าว มีทั้งประเทศในยุโรปที่มีดินแดนติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น กรีซ อิตาลี สเปน ตุรกี และอียิปต์ รวมถึงประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาะบาหลี อินโดนีเซีย
ส่วนประเด็นที่บริษัทนำเที่ยวจาก 3 ประเทศสอบถามกันมากที่สุดในการจัดโรดโชว์ครั้งนี้ คือ การผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยได้รับการตอบรับดีมากเมื่อทราบว่าไทยจะไม่มีการกักตัวนักท่องเที่ยวแล้ว นอกจากนี้ยังสอบถามเกี่ยวกับสินค้าท่องเที่ยวและประสบการณ์ใหม่ๆ ในไทย ว่าสามารถเพิ่มมูลค่าแก่แพ็คเกจที่จะเสนอขายให้นักท่องเที่ยวอย่างไรได้บ้าง เพราะบริษัทนำเที่ยวไม่ต้องการขายแค่ห้องพักเพียงอย่างเดียว
“นักท่องเที่ยวยุโรปยังคงสนใจแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล และยินดีจ่ายมากขึ้นหากมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ปัจจุบันค่าใช้จ่ายการเดินทางมาเที่ยวไทยในภาพรวมไม่ได้สูงมาก โดยเฉพาะค่าห้องพัก แต่ประเด็นที่ยังเป็นอุปสรรคตอนนี้คือ สายการบินยังไม่กลับมาทำการบินตรงจากไทยไปประเทศในยุโรปเหมือนปกติ โดยเดือน มิ.ย.นี้ สายการบินต่างๆ กลับมาให้บริการจำนวนเที่ยวบินที่ 40% ของปี 2562 ทำให้การเดินทางบางส่วนต้องไปต่อเครื่องบินในตะวันออกกลางก่อนเข้าไทย และมีประเด็นค่าตั๋วเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น 15-20% จากราคาน้ำมันแพงเพราะวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน”
ในเดือน ส.ค.นี้ ททท.มีแผนนำภาคเอกชนไทยไปโรดโชว์ในประเทศสวีเดนและเดนมาร์ก ซึ่งกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียถือเป็นอีกตลาดสำคัญในยุโรป!
โดยปี 2565 ททท.ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวยุโรปมาไทย 2.5 ล้านคน สร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท ค่าใช้จ่ายต่อทริปอยู่ที่คนละ 70,000 บาท สูงกว่าปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ซึ่งอยู่ที่ราว 60,000 บาทต่อคน เนื่องจากมีแนวโน้มพำนักในไทยนานขึ้น ขณะที่ภาพรวมปี 2562 มีนักท่องเที่ยวยุโรปมาไทย 8.2 ล้านคน สร้างรายได้ 5 แสนล้านบาท