“บัตรเครดิตเซ็นทรัล” เดินเกมรุกขยายฐานนิวเจน ดันยอดรูดปี๊ดปีนี้โต 16%
“บัตรเครดิตเซ็นทรัล” ชี้โควิดผ่อนคลายหนุนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ปีนี้โต 8.82 หมื่นล้าน เพิ่ม 16% ยอดบัตรใหม่ 8.12 หมื่นใบ เพิ่ม 52% เดินเกมรุกผนึกเซ็นทรัลฯ ปรับภาพลักษณ์บัตร RED CARD ขยายฐานกลุ่มนิวเจน
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายธุรกิจปี 2565 มีบัตรเครดิตใหม่ 81,200 ใบ เพิ่มขึ้น 52% มียอดใช้จ่ายบัตร 88,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% และมียอดสินเชื่อบุคคลใหม่ 1,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% ส่วนสินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ (NEA) อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% มีส่วนแบ่งการตลาดระดับ 5 % จากไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 4.7 % สิ้นปีก่อนอยู่ที่ 4.6%
เนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้เติบโตดีทุกมิติเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มียอดบัตรเครดิตใหม่ 19,500 ใบ เพิ่มขึ้น 21% มียอดใช้จ่ายบัตร 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และมียอดสินเชื่อบุคคลใหม่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ส่วน NEA ที่ 21,000 ล้านบาท โต 4.4% มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ประมาณ 2% มีฐานบัตรรวม 952,000 ใบ
โดยปัจจัยหนุนจากฐานผู้ถือบัตรของเราเป็นกลุ่มรายได้สูงได้รับผลกระทบจากโควิดน้อย และการใช้จ่ายเริ่มกลับมาเร็วหลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด ซึ่งการใช้ต่างกับบัตรเครดิตแบรนด์ของธนาคารทั่วไปที่การใช้จ่ายกลับมาค่อนข้างช้า
และส่วนหนึ่งบัตรโคแบรนด์อย่างเรากลับมาเร็ว จากการที่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างเครือเซ็นทรัล จึงเป็นที่มาของแนวคิดในปีนี้ ที่จะปรับกลยุทธ์การสร้างความเติบโตธุรกิจผ่านเครือข่ายพันธมิตรของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กรุ๊ป
นายอธิศ กล่าวว่า เร็วนี้บริษัทเตรียมรุกกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นอายุเฉลี่ย 30-35 ปี ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้สัดส่วน10-20% ของฐานบัตรเท่านั้น โดยบริษัทจะปรับภาพลักษณ์บัตร RED CARD ให้มีความทันสมัย รวมถึงนำเอาเทคโนโลยี การซื้อขายสินค้าออนไลน์มาตอบโจทย์ รวมถึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในเครือ
"เราคงไม่สามารถผ่อนเกณฑ์อนุมัติด้านรายได้ขั้นต่ำได้ให้กับกลุ่มนิวเจนได้ แต่จะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น การพิจารณากลุ่มคนทำงานอิสระ โดยผ่าน RED CARD กำหนดรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน ส่วนบัตรพรีเมี่ยมรายได้ขั้นต่ำ 1 แสนบาทขึ้นไปต่อเดือน อายุเฉลี่ย 40-45 ปี มีกำลังซื้อสูงเป็นฐานหลักที่ยังต้องรักษาเอาไว้ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ต้องหากลุ่มลูกค้าที่เป็นนิวเจนเข้ามาเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนในอนาคต"
ทั้งนี้ การปรับกลยุทธ์ครั้งนี้ เพื่อมุ่งขยายและต่อยอดความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มให้มากขึ้นและลึกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านนวัตกรรมการชำระเงินนำเทคโนโลยีด้าน Contactless OR Code Wallet Payments เข้ามาใช้ รวมถึงความร่วมมือด้านข้อมูลซึ่งในส่วนของเซ็นทรัลมีฐานลูกค้าจำนวนมากถึง 18 ล้านราย
นอกจากนี้ ยังสามารถร่วมกันเสริมสร้างระบบ Ecosystem ไปยังเครือข่ายของทั้งสองกลุ่ม และท้ายสุดการเชื่อมโยงไปสู่ความร่วมมือระหว่างเครือเซ็นทรัลกับเครือกรุงศรี ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวคิด One Retail ของกลุ่มลูกค้ารายย่อยในเครือกรุงศรีอยู่แล้ว