‘ฟู้ด แฟคเตอร์’ ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจอาหาร ปั้น ‘โลคอล สยาม 77’ เจาะตลาดโลก

นายปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจอาหารถือเป็น 1 ใน 6 เสาหลักของบริษัทบุญรอดฯ ประกอบด้วย ธุรกิจเบียร์-โซดา บรรจุภัณฑ์ ซัพพลานเชน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภูมิภาค และธุรกิจอาหารภายใต้การขับเคลื่อนของ ฟู้ด แฟคเตอร์

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อสร้างการเติบโตและความยั่งยืนสำหรับธุรกิจอาหาร ฟู้ด แฟคเตอร์ ชูกลยุทธ์การนำเสนอวัฒนธรรมอาหารไทย การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ เพื่อชูรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านการสร้างสรรค์ธุรกิจอาหารหลากหลายโมเดล เช่นที่ผ่านมา มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มซอสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซอสอเนกประสงค์ เครื่องปรุงรส และยังมีธุรกิจร้านอาหารในเครือ เช่น EST.33 ฟาร์มดีไซน์ ซานตา เฟ่ และ เหม็ง นัวนัว

ล่าสุด บริษัทเดินหน้าต่อยอดธุรกิจอาหาร ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มอาหารพร้อมทานภายใต้แบรนด์ ‘โลคอล สยาม77’ (Local Siam 77) โดยนำจุดแข็งวัตถุดิบของท้องถิ่นที่มีคุณภาพและโดดเด่นจาก 77 จังหวัดของประเทศไทย มารังสรรค์เมนูอาหารพร้อมทานที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยและรสชาติแบบต้นตำรับดั้งเดิม เพื่อตอบความต้องการของตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย และง่ายต่อการรับประทานอาหารมากขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่โลคอล สยาม 77 ที่บุกตลาด ประกอบด้วย กลุ่มอาหารพร้อมทาน ทั้งแบบไม่แช่แข็ง และแช่แข็ง มีเมนูหลากหลาย เช่น กลุ่มอาหารพร้อมทานและเนื้อสัตว์ ได้แก่ แกงเขียวหวานไก่ใส่หน่อไม้ แกงมัสมั่นไก่ แกงกะหรี่ไก่ แกงแดงไก่ และต้มยำไก่ ฯ กลุ่มก๋วยเตี๋ยวพร้อมทาน ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวแกงเขียวหวาน ก๋วยเตี๋ยวแกงมัสมั่น ผัดไทย ส่วนกลุ่มข้าวออร์แกนิคพร้อมทาน ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ ซึ่งเมนูดังกล่าวได้มาตรฐาน USDA IFOM EU รองรับการส่งออกตลาดต่างประเทศ และกลุ่มเครื่องแกงไทยสำเร็จรูป ได้แก่ พริกแกงกะหรี่ พริกแกงแดง พริกแกงเขียว และพริกแกงมัสมั่น เป็นต้น

“การรุกตลาดอาหารพร้อมทานภายใต้แบรนด์โลคอล สยาม 77 ประเดิมเปิดตัวครั้งแรกในงาน Thaifex-Anuga Asia 2022 ที่ผ่านมา โดยบริษัทเตรียมบุกตลาดในประเทศอย่างเต็มรูปแบบช่วงปลายปีนี้ ด้วยการเจาะช่องทางจำหน่ายผ่านห้างโมเดิร์นเทรด รวมถึงวางแผนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศด้วย”

ปัจจุบันธุรกิจส่งออกอาหารไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยปี 2565 มีการประเมินมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.20 ล้านล้านบาท เติบโต 8.4% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลาย ทำให้ประเทศคู่ค้ามีการผ่อนคลายมาตรการทางเศรษฐกิจ ประกอบกับปัจจัยบวกค่าเงินบาทอ่อนตัวลง จึงส่งผลดีต่อการส่งออก ขณะที่กลุ่มอาหารพร้อมรับประทานถือเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าหลักของการส่งออกในอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 7.7% สอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเตรียมอาหารมากขึ้น