10 อันดับ “กองทุน RMF” ผลตอบแทนสูงสุด รอบ 1 ปี
เปิด 10 อันดับ ‘กองทุน RMF Equity’ ผลตอบแทนสูงสุด ในรอบ 1 ปี มอร์นิ่งสตาร์ เผย กองทุนเปิดทาลิส DIVIDEND STOCK เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทน นำโด่ง 22.57% บลจ.กสิกรไทยแนะลงทุนให้เหมาะ ลดหย่อนภาษีได้เต็ม ๆ ไม่ต้องรอปลายปี
ผ่านมาจะกลางปีแล้ว ใครยังไม่ได้เตรียมหาตัวช่วงลดหย่อยภาษี อาจยังไม่มี หรือ มีบางส่วนแต่ยังไม่ครบ ซึ่งหนึ่งตัวช่วยในการลดหย่อนภาษียอดนิยม คือ เหล่ากองทุนในกลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF) ที่ก็มีหลากหลายตัวให้เลือกในตลาดการลงทุน
แต่ก่อนจะไปเลือกกองทุน RMF เรารอมาเช็คก่อนว่า ผลตอบแทนกองทุนนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง
สำหรับ ลองมาดูว่าในรอบ1ปีมานี้ "กองทุน RMF Equity" ไหนบ้าง ที่มีความโดดเด่นมีผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับ โดยข้อมูลจาก"มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) ณ เดือน พ.ค. 2565 มีดังนี้
1.กองทุนเปิดทาลิส DIVIDEND STOCK เพื่อการเลี้ยงชีพ (TLDIVRMF) ผลตอบแทน 22.57%
2.กองทุนเปิดทาลิส หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ (TLEQRMF) ผลตอบแทน 15.43%
3.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลอินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGIF) ผลตอบแทน 13.81%
4. กองทุนเปิดภัทร หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ(KKP EQRMF) ผลตอบแทน 10.51%
5. กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) ผลตอบแทน 9.80%
6. กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFDNMRMF) ผลตอบแทน 9.63%
7. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ ( THDRMF) ผลตอบแทน 9.18%
8. กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF) ผลตอบแทน 8.27%
9.กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ (BSIRIRMF) ผลตอบแทน 7.37%
10.กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KEQRMF) ผลตอบแทน 6.91%
สำหรับ กองทุน RMF ไม่ต้องรอปลายปี สามารถเพิ่มโอกาสทำกำไร ลงทุนให้เหมาะ ลดหย่อนภาษีได้เต็ม ๆ เช่นกัน
แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือก อยากให้พิจารณาเงื่อนไขและสำรวจเงินได้ทั้งปีก่อน เพื่อคำนวณสิทธิในการลงทุนค่าลดหย่อนแต่ละประเภท โดยเฉพาะระยะเวลาในการถือครอง
บลจ.กสิกรไทย แนะนำว่า กองทุน RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือ ปีเว้นปี และถือหน่วยลงทุนจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และถือครองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี
คิดจะลงทุน อย่าลืมพิจารณาความเสี่ยง
ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรเลือกกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้
ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำเลือกกองทุนประเภท Balance Fund ที่กองทุนมีนโยบายกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ
ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและคาดหวังผลตอบแทนสูง เลือกลงทุนในหุ้น ซึ่งปัจจุบันสามารถลงทุนในบริษัทต่างประเทศที่กำลังเป็นกลุ่มการลงทุนที่กำลังได้รับความสนใจ เช่น กลุ่ม ESG, กลุ่มสิ่งแวดล้อม หรือ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี