ส่องตัวเต็งเข้า SET50-SET100 รอบครึ่งปีหลัง
ธีมหุ้น SET50 และ SET100 เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ เพราะใกล้ถึงรอบการประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ประจำงวดครึ่งหลังปี 2565 (1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2565) ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย. นี้
และยังเป็นรอบที่ 2 ที่ตลท. ใช้เกณฑ์ใหม่ในการคัดเลือกหุ้น ซึ่งนอกจากจะพิจารณาจากเกณฑ์ด้านปริมาณ (Quantitative) ได้แก่ Market Capitalization, Value Trade, Turnoverratio, Free Float เป็นต้น และเกณฑ์เชิงคุณภาพ (Quality) เช่น ไม่เข้าข่ายถูกเพิกถอน ไม่ถูกสั่งพักการซื้อขาย หรือ มีปัญหาด้านงบการเงิน ยังเพิ่มความเข้มงวดขึ้น โดยไม่นำปริมาณการซื้อขายในช่วงที่หุ้นติด Cash Balance เข้ามาคำนวณ
โดยบล.เอเซีย พลัส คาดการณ์หุ้นที่จะถูกคัดเลือกเข้าดัชนี SET50 รอบครึ่งหลังปี 2565 ได้แก่ JMT, JMART และที่เป็นไปได้รองลงมา ได้แก่ BLA, BJC ส่วนหุ้นที่จะถูกคัดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ STGT, RATCH, COM7
ส่วนหุ้นที่คาดได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี SET100 รอบครึ่งหลังปี 2565 ได้แก่ THG, TIPH, AAV, ONEE ที่เป็นไปได้รองลงมา ได้แก่ FORTH, BJC ส่วนหุ้นที่จะถูกคัดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ BPP, SIRI, TTA, SYNEX ที่เป็นไปได้รองลงมา ได้แก่ SUPER, PTG
โดยฝ่ายวิจัยฯ ได้ทำการศึกษาผลตอบแทนในอดีตย้อนหลัง 15 ปีของหุ้นที่ถูกคัดเข้าและถอดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 พบว่า “ราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นตอบรับในเชิงบวกล่วงหน้าก่อนวันบังคับใช้เสมอ” โดยเฉพาะหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณใน SET50 มักจะ Outperform ตลาดมาก
ซึ่งช่วงเวลาในการลงทุนที่ดีดีสุด คือ 1 เดือนก่อนวันบังคับใช้ (วันเข้าคำนวณ ใช้ราคาปิดวันที่ 30 มิ.ย. 2565) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 6.1% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 70% หลังจากนั้นราคาหุ้นจะค่อยๆ ปรับตัวลดลงหลังมีผลบังคับใช้
ส่วนหุ้นที่ถูกคัดเข้า SET100 มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่า ในทางกลับกันต้องระวังหุ้นที่ถูกคัดออก เพราะราคาหุ้นมักจะปรับตัวลดลงก่อนวันบังคับใช้ แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นจะค่อยๆ ฟื้นกลับมา
ทั้งนี้ ยังมีหุ้นอีกหลายบริษัทที่มีโอกาสเข้าคำนวณ ประกอบกับพื้นฐานยังแข็งแกร่ง และปัจจัยแวดล้อมสนับสนุน แนะนำ BLA มีโอกาสเข้า SET50 ขณะที่พื้นฐานธุรกิจได้ประโยชน์จากแนวโน้มนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้น
BJC มีโอกาสเข้า SET50 และ SET100 มองว่าผลประกอบการน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวจากการเปิดเมือง และ AAV มีโอกาสเข้า SET100 ธุรกิจจะฟื้นตัวได้ดีตามตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด
ด้านบล.ทรีนีตี้ คาดการณ์ว่าหุ้นที่จะเข้า SET50 ในรอบถัดไป ได้แก่ BJC, JMT, JMART และหุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ STGT, COM7, RATCH ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี SET100 ในรอบถัดไป ได้แก่ BJC, FORTH, TIPH, PSL, ONEE และหุ้นที่คาดถูกคัดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ BPP, MAJOR, TTA, SIRI, RS
สำหรับการเก็งกำไรธีม SET50 และ SET100 มองว่ามีหุ้น 2 ตัวที่น่าสนใจ ได้แก่ BJC และ JMT โดยในแง่ของเม็ดเงินนั้นคาดว่า BJC จะมีเม็ดเงินไหลเข้ามากที่สุด เนื่องจากถูกนำเข้าคำนวณทั้ง SET50 และ SET100 นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน (Consumer Staples) ในเชิงพื้นฐานยังคงแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45.70 บาท
ส่วน JMT ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น หลังได้รับเลือกเข้าสู่ดัชนี MSCI Standard ในรอบที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังคงมี Upside กว่า 30% จากราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยที่ 103 บาท
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า หุ้นที่คาดเข้า SET50 ในรอบนี้ได้แก่ JMT, JMART หุ้นที่คาดออก ได้แก่ RATCH, STGT ส่วนหุ้นที่คาดเข้า SET100 ได้แก่ TIPH, FORTH, AAV, ONEE, PSL, BYD, ASK และหุ้นที่คาดถูกคัดออก ได้แก่ BPP, MAJOR, RS, SIRI, STEC, SYNEX, TTA