"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์" เดอะฟอเรสเทียส์ ทำยอดขายบ้านทะลุ 78%
อสังหาริมทรัพย์ "อัลตร้าลักชัวรี" โตเหนือตลาด "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์" เดอะฟอเรสเทียส์ ทำยอดขายบ้านทะลุ 78% มูลค่า 4,700 ล้านบาท
ห้วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อชะลอตัว และการแพร่ระบาดของ "โควิด-19" แม้จะสร้างผลกระทบรุนแรงทั่วโลก แต่นับว่าเป็นปฎิกิริยาเร่งต่อการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ โดยเฉพาะ "วิถีชีวิตความเป็นอยู่" ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ การอยู่อาศัย ที่ให้ความสำคัญกับองค์รวมของการยกระดับคุณภาพชีวิต พื้นที่และฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงธรรมชาติบำบัด เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยระดับ "ซูเปอร์พรีเมี่ยม" หรือ "อัลตร้าลักชัวรี" ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากยอดจอง ยอดขายบ้านหรือคอนโดมิเนียมหรูล้วนแต่โตเหนือตลาด
กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า เทรนด์ของตลาดที่อยู่อาศัยขณะนี้ พบว่า มีความต้องการสูง สำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี โดยการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบรนด์ซิกซ์เซนส์แห่งแรกในประเทศไทย หรือ "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์" ในพื้นที่โครงการเมกะโปรเจกต์ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 ล่าสุด ณ 31 พฤษภาคม ทำยอดขายบ้านแล้ว 78% มูลค่า 4,700 ล้านบาท จำนวน 21 หลัง จากทั้งหมด 27 หลัง
"ความรวดเร็วในการตัดสินใจของผู้ซื้อแสดงให้เห็นว่าตลาดยังมีความต้องการอยู่ในระดับที่สูงมาก สำหรับบ้านในระดับอัลตร้าลักชัวรีในกรุงเทพฯ ซึ่งให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมทั้งมีการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพ"
ทั้งนี้ ในช่วง 30 วันแรกของการเปิดขาย "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์" สามารถขายบ้านได้ถึง 16 หลัง และจนถึงวันนี้ขายเพิ่มได้อีก 5 หลัง จะเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมไปได้ดีเกินคาดทีเดียว
แน่นอนว่า ด้วยศักยภาพความเป็นเมืองขนาดใหญ่ของ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" มูลค่า 1.25 แสนล้านบาท บนที่ดินขนาด 398 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นเส้นทางสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC กำลังถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วสร้างโอกาสการเติบโตในทุกมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน โดยพื้นที่อันกว้างใหญ่ของ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่กิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมี Family Center ตลาด ป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ ใจกลางโครงการ พร้อมทางเดินยกระดับทอดยาวทะลุผืนป่า 1.6 กิโลเมตร นับเป็นพลังดึงดูดผู้คนมุ่งหน้าสู่พื้นที่ครบวงจรแห่งการใช้ชีวิตแห่งนี้
กิตติพันธุ์ ขยายความต่อถึงคีย์ ซัคเซส ที่ลูกค้าตอบรับต่อ "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์" นั่นคือ การผสมผสานระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ที่มากับแบรนด์เดอะซิกส์เซนส์ ตั้งแต่ความเป็นแบรนด์ระดับโลก คอนเซปต์โครงการ บนทำเลศักยภาพ ที่ตอบโจทย์ตลาดซูเปอร์พรีเมี่ยม
สำหรับ บ้านในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 27 หลัง ที่มาพร้อมพื้นที่สวนของตนเอง มีทะเลสาบล้อมรอบ โดยตัวบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด 3-5 ห้องนอน พื้นที่ 790-1,500 ตารางเมตร สนนราคาเริ่มตั้งแต่ 180 ล้านบาท ไปจนถึงมากกว่า 360 ล้านบาท โดยมีบริษัท Foster+Partners และ DT designs รับหน้าที่ ที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ ขณะที่ "Six Senses Hotels Resorts Spas" เป็นที่ปรึกษาด้านงานตกแต่งภายใน และภาพรวมโครงการ ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า "บ้านทุกหลัง" ในโครงการจะตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ ผสานการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ มีบ่อออนเซนและสระว่ายน้ำ พร้อมวิวทะเลสาบและสายลมธรรมชาติที่พัดผ่าน
"บ้านในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทั้งหมด เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกว่า สเปกดี ทุกหลังรับประกันคุณภาพ 30 ปี โดย MQDC ซึ่งมาพร้อมกับบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตามแบบฉบับของบ้านแบรนด์ซิกส์เซนส์"
นอกจากนี้ ยังรวมถึงบริการอำนวยความสะดวกต่างๆ คลับเฮ้าส์ การบริหารจัดการดูแลในระดับพิเศษเพื่อรักษาและคงความเป็นสังคมที่มุ่งเน้น "คุณภาพการใช้ชีวิต" และ "ความยั่งยืน" อย่างไรก็ดี บ้านหลังแรกๆ ในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คาดว่าจะพร้อมโอนได้ในไตรมาส 2 ปี 2567
เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งใหม่ในเครือซิกส์เซนส์ที่มีห้องพักประมาณ 85 ห้อง ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เช่นกัน
ทั้งนี้ เจ้าของบ้านโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้สถานที่ต่างๆ ของโรงแรม รวมไปถึงบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลบ้าน การดูแลเด็ก (baby-sitting) ไปจนถึงบริการบัตเลอร์ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการใช้บริการต่างๆ ห้องพัก อาหาร เครื่องดื่ม และสปา
ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวต่อว่า ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีโครงการอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ บ้านแบรนด์ "มัลเบอร์รี โกรฟ" มียอดขายที่ดีเช่นเดียวกัน ณ เดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำยอดขายได้แล้ว 3,720 ล้านบาท
บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม "มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า" มีบ้านทั้งหมด 37 หลัง มีให้เลือก 3 ขนาด ตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 1,000-1,700 ตารางเมตร มุ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่อยู่ด้วยกันหลากหลายเจนเนอเรชัน หรือครอบครัวที่อยากอยู่ใกล้ชิดกันในบ้านเดี่ยวหลายๆ หลังที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน
โครงการที่พักอาศัยใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ นอกจากบ้านแบรนด์ "ซิกส์เซนส์" บ้านแบรนด์ "มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า" ยังมีคอนโดมิเนียมแบรนด์ "มัลเบอร์รี โกรฟ" ที่พักอาศัยแบรนด์ "ดิ แอสเพน ทรี" พร้อมสกายวิลล่า สำหรับผู้สูงอายุ ที่มาพร้อมการบริหารจัดการแบบพิเศษเพื่อการดูแลตลอดชีวิต และคอนโดมิเนียมแบรนด์ "วิสซ์ดอม"