SPRC ค่าการกลั่นพุ่งกระฉูด (7 มิ.ย. 2565)
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นอีก 105% เป็น 1.35 หมื่นล้านบาท และปีหน้าขึ้นอีก 15% เป็น 6.3 พันล้านบาท เนื่องจาก base GRM เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเราได้ปรับเพิ่มสมมติฐาน base GRM ของ SPRC ในปี 2565F ขึ้นจากเดิม 46% เป็น US$10.1/bbl และปี 2566F ขึ้นจากเดิม 10% เป็น US$7.5/bbl จากการที่เราปรับเพิ่มสมมติฐาน spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลปีนี้เป็น US$22.0/19.0/21.0/bbl และปีหน้าเป็น US$16.0/16.0/16.0/bbl ตามลำดับ ทั้งนี้ตลาดโรงกลั่นได้แรงหนุนจาก i) อุปสงค์น้ำมันโลกที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะมีการคลายข้อจำกัดเพื่อคุม COVID-19 ลง, ii) ปริมาณการส่งออกน้ำมันจากเอเชียไปยุโรปเพิ่มขึ้น, iii) อุปทานตึงตัวขึ้นเพราะมีการปิดโรงกลั่นทั่วโลก 3.1-3.2MBD ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และ iv) จีนและรัสเซียส่งออกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลลดลง นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565-66F จาก US$90/75/bbl เป็น US$100/85/bbl ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อนานเกินคาด และการที่ EU มีมติแบนการนำเข้าน้ำมันดิบทางทะเลจากรัสเซีย ดังนั้นเราจึงคาดว่า SPRC จะมีกำไรจากสต็อก
น้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 พันล้านบาทในปี 2565F (เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 179%) และจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 พันล้านบาทในปี 2566F แต่อย่างไรก็ตาม เราเพิ่มค่าใช้จ่ายพิเศษ 1.4 พันล้านบาทจากกรณีน้ำมันรั่ว ซึ่งบริษัทลงบัญชีไว้ใน 1Q65 เข้ามาในแบบจำลองของเรา เพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่เราใส่ไว้เพียง 500 ล้านบาท
คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2565F จะเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 185% YoY
เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2565F จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท (+185% YoY) เนื่องจาก base GRM เพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่า base GRM ของ SPRC จะเพิ่มขึ้นถึง 175% YoY เป็น US$10.1/bbl เนื่องจากเราคาดว่า spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลในปีนี้จะเพิ่มขึ้น YoY เป็น US$22.0/19.0/21.0/bbl จาก US$11.1/5.8/6.7/bbl ในปีที่แล้วตามลำดับ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 18% YoY เป็น 160KBD เนื่องจากมีการคลายข้อกำหนดเพื่อคุม COVID-19 ลงซึ่งทำให้การใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรจากสต็อก
น้ำมันลดลง 46% YoY เหลือ 3.2 พันล้านบาทเนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปีที่แล้ว
Valuation & Action
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 13.00 บาท โดยอิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.5x เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และกำไรที่กลับสู่ระดับปกติในปี 2566 เรายังคงคำแนะนำซื้อ และยังคงเลือก SPRC เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงานเนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นมาเกินกว่า US$30/bbl ใน 2QTD65 ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีมาก นอกจากนี้ เราคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงมากซึ่งน่าจะมากกว่า 10% ในปี 2565F ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและ GRM