ปลุกชีพจรท่องเที่ยว-ไมซ์ "สงขลา" ฟื้นยอดทัวริสต์ปี 65 แตะ 4 ล้านคน

นับเป็นการฟื้นตัวจากฐานปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 7 ล้านคน โดยอันดับ 1 คือนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ครองสัดส่วนเกิน 50% หรือไม่น้อยกว่า 3.5 ล้านคน ส่วนอันดับ 2 นักท่องเที่ยวไทย 2 ล้านคน รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวสิงคโปร์และจีน

อำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ประเมินการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวสงขลาปีนี้ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามากเป็นอันดับ 1 คือ “มาเลเซีย” ด้วยจำนวน 1 ล้านคน หากรัฐบาลพิจารณา “ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส” (Thailand Pass) ภายในเร็วๆ นี้ จะช่วยหนุนนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้าสงขลาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าว

หลังจากสถิตินักท่องเที่ยวมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.จนถึงปัจจุบัน พบว่าเดินทางเข้า จ.สงขลา ประมาณ 4-5 หมื่นคนแล้ว ส่วนใหญ่ 90% เป็นการเดินทางทางบกผ่าน “ด่านสะเดา” ส่วนอีก 10% เป็นทางอากาศ โดยเพิ่งจะมีกระแสเดินทางฟื้นตัวชัดเจนในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ทางจังหวัดฯกำลังหารือกับหน่วยงานภายในพื้นที่เพื่อตกผลึกข้อเสนอถึงรัฐบาล เกี่ยวกับการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอนุญาตให้ธุรกิจ “สถานบันเทิง” เฉพาะในพื้นที่ด่านนอก อ.สะเดา กลับมาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อปลุกเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง!

ด้านการฟื้นฟูตลาด “ไมซ์” (MICE: การจัดประชุม ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) ของ จ.สงขลา ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน “ไมซ์ซิตี้” (MICE City) ของประเทศไทย ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนให้สงขลาปักหมุดในปฏิทินงานไมซ์ระดับโลก!

ลิซ ออร์ติเกรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปชิฟิค (PATA) กล่าวว่า PATA เตรียมจัดเวทีการประชุมสัมมนาการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ประจำปี 2565 หรือ “PATA Destination Marketing Forum 2022” (PDMF 2022) ภายใต้แนวคิด “การฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยววิถีชุมชน”

โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จังหวัดสงขลา (เอสเส็บ) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้การสนับสนุนของจังหวัดสงขลา ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (ICC Hat Yai) จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 2-4 ส.ค.2565

“เราพร้อมเริ่มต้นฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างจริงจัง การประชุมครั้งนี้จะเน้นหารือเรื่องการตลาด จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในภูมิภาค”

ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ ทีเส็บ กล่าวว่า งาน PDMF 2022 เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ระดับนานาชาติในไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น และเป็นการนำนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและพัฒนา “เศรษฐกิจของภูมิภาค” มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในไมซ์ซิตี้ชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพแข็งแกร่งและมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติ เห็นได้จากการเป็นเจ้าภาพจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติที่สำคัญมาแล้วหลายงาน

“ทีเส็บประเมินว่าการจัดงาน PDMF 2022 จะมีผู้ร่วมงานกว่า 300-400 คน กว่า 50% เป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารองค์การหรือสำนักงานส่งเสริมด้านท่องเที่ยวและไมซ์ และผู้นำของบริษัทนำเที่ยวภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค คาดงานนี้ช่วยสร้างเม็ดเงินจับจ่ายราว 100 ล้านบาท”

วัชรี ชูรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ อพท. กล่าวเสริมว่า อพท.ได้จัดเตรียมเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อศึกษาและดูงานไว้ 3 เส้นทางที่เกี่ยวข้องกับ “การท่องเที่ยววิถีชุมชน” ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยตัวแทนที่เข้าร่วมงานสามารถเลือกรับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ประกอบด้วย 1.วิถีชีวิตโหนดนาเล ชุมชนท่าหิน ประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบวิถีดั้งเดิมของคนในท้องถิ่นและเรียนรู้วิธีที่ชุมชนใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 2.ธรรมชาติบรรจบวัฒนธรรม ชุมชนเกาะยอ สำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นแดนใต้และเพลิดเพลินไปกับวิถีชุมชน บ้านและวัดดั้งเดิมของเกาะยอ และ 3.มรดกซิงกอรา ชุมชนหัวเขา ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ปากทะเลสาบสงขลาและผจญภัยรอบเมืองเก่าที่ได้รับเลือกเข้าชิงให้เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก

“สงขลาถือเป็นเมืองประมงที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองท่าสำคัญและ “เมืองสองเล” โดยไม่นานมานี้รัฐบาลได้เสนอชื่อจังหวัดสงขลาเป็นแหล่งมรดกโลกและเมืองสร้างสรรค์ทางด้านอาหารของยูเนสโก นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ซึ่งรวมถึงเมืองเก่าและสุดยอดอาหารพื้นเมืองอีกด้วย”