เริ่มพรุ่งนี้! ลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า เหลือ 2%
สรรพสามิตเผย การปรับลดภาษีสรรพสามิต เพื่อหนุนการใช้รถอีวีจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ คาดค่ายรถยนต์หลายแห่งจะทยอยเข้าร่วมโครงการ ชี้หากปัญหาการขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์ยืดเยื้อ จะกระทบต่อแผนการส่งเสริมการใช้รถอีวีในประเทศ
นายณัฐกร อุเทนสุต โฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยความคืบหน้าการปรับลดภาษีสรรพสามิตเพื่อสนับสนุนมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีว่า ขณะนี้ เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการออกกฎหมายเพื่อลดภาษี โดยได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ และจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดไป คือ วันที่ 9 มิ.ย.นี้
เขากล่าวว่า หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้ภาษีสรรพสามิตปรับลดจาก 8% เหลือ 2% ซึ่งจะทำให้ค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทยอยเข้ามา ร่วมโครงการสนับสนุนจากรัฐบาลมากขึ้น เชื่อว่า ในปีนี้จะมีค่ายรถยนต์อีกอย่างน้อย 3-4 ค่าย โดยเป็นค่ายรถจากญี่ปุ่น และจีน และค่ายรถจักยานยนต์อย่างน้อย 2-3 ค่าย จากไทยและจีน
สำหรับกรณีปัญหาการขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์อีวีนั้น เขากล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทำให้ค่ายรถยนต์ที่เปิดจองรถยนต์ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ต้องหยุดรับจองรถชั่วคราวเกือบ 2 เดือนแล้ว เนื่องจาก บริษัทแม่ของแต่ละค่ายรถยนต์จำเป็นต้องกระจายรถยนต์ที่ผลิตแล้ว ส่งไปให้ลูกค้าที่ประเทศอื่นด้วย ขณะที่ ไทยมียอดจองรถยนต์ไฟฟ้ารวมขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นคัน ซึ่งยอมรับว่า หากปัญหาการขาดแคลนชิปยังยืดเยื้อเป็นปี ก็จะกระทบต่อแผนส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยได้
“ปัญหาขาดแคลนชิปเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ค่ายรถยนต์ของจีนที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 100 คัน ก็ต้องกระจายส่งไปให้ประเทศอื่นทั่วโลกด้วย มองว่าในระยะสั้นจะยังไม่กระทบต่อแผนการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย แต่หากยืดเยื้อเป็นปีก็อาจจะกระทบบ้าง แต่เป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ และขึ้นอยู่กับบริษัทแม่ของแต่ละค่ายรถว่าจะได้ชิปมากพอที่จะผลิตรถยนต์และส่งมาให้ไทยมากน้อยแค่ไหน ภายในสิ้นปีนี้จะรู้ และจะมีการประเมินสถานการณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไขอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่า ค่ายรถยนต์ที่เปิดจองรถยนต์ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ ได้มีการทยอยส่งมอบรถให้ลูกค้าไปแล้วประมาณ 500 คัน และคาดว่าหลังการประกาศราชกิจจาฯ ฉบับนี้ แต่ละค่ายรถจะทยอยส่งมอบรถให้ลูกค้าได้อีกประมาณ 1,500 คัน