กนอ.จับมือเกาหลีใต้ตั้งนิคมฯ EEC ดึงลงทุน EV การแพทย์ ดิจิทัล
กนอ. เอ็มโอยู Land and Housing Corporation (LH) รัฐวิสาหกิจเกาหลีใต้ผู้เชี่ยวชาญด้านนิคมฯ และที่พักอาศัย ภายใต้กรอบความร่วมมือ 2 ปี มุ่งพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะและบุคคลากรไทย เล็งศึกษาจัดตั้งนิคมฯ ในพื้นที่ EEC ดึงลงทุนอีวี การแพทย์ ดิจิทัล
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดพันธกิจขับเคลื่อนและพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Industrial ecosystem) เพื่อเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสังคมและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งความร่วมมือระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ LH บริษัทของรัฐบาลเกาหลีที่เชี่ยวชาญการพัฒนาเมืองและอาคารสาธารณะครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และเชื่อมั่นว่าศักยภาพและประสบการณ์ของ LH จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงการเพิ่มมูลค่า การลงทุนในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมระหว่างกัน จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเติบโตเพิ่มมากขึ้น
นายคิม ฮยุนจุน (Mr.Kim Hyun Jun) กรรมการผู้มีอำนาจ LH กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 และการพัฒนาพื้นที่ EEC ของรัฐบาลไทย นอกจากนี้ หลังการทำข้อตกลง FTA ระหว่างเกาหลีและไทยเมื่อปี 2553 ทำให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากการลงทุนของเกาหลีในประเทศไทยที่มีมูลค่า 64 ล้านดอลลาร์ ในปี 2563 และ 406 ล้านดอลลาร์ ในปี 2564
ทั้งนี้ LH มีความต้องการที่จะขยายขอบเขตความร่วมมือผ่านโครงการพัฒนาต่างๆ ร่วมกับ กนอ. โดยคาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ภายใต้กรอบความร่วมมือในระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งสร้างโอกาสในการลงทุนของนักลงทุนเกาหลีในกลุ่มอุตสาหกรรมอีวี การแพทย์ และดิจิทัล
โดยภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รวมถึงประสบการณ์ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ มุ่งเน้นการพัฒนาในพื้นที่ EEC เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
นายจอน โจยอง (Mr.Jeon Joyoung) อัครราชทูต รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตผู้แทนถาวรสาธารณรัฐเกาหลีประจำยูเอ็นเอสแคป กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของไทยและเกาหลีที่จะร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะในประเทศไทย และจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะในประเทศไทย
โดยก่อนหน้านี้ ทั้งสองประเทศได้มีการลงนามเอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือ "เมืองอัจฉริยะ" ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่ง สาธารณรัฐเกาหลี ทำให้ความร่วมมือการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะในครั้งนี้ จึงเป็นอีกก้าวที่สำคัญในความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและเกาหลี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแผนการของประเทศไทยในการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมอัจฉริยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคอุตสาหกรรมของไทยและบริษัทเกาหลีในอนาคต
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) ส่งเสริมให้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม บริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการในนิคมอุตสาหกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบกิจการ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นอกจากนี้ กนอ.ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดทำสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนให้ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ และพื้นที่ประกอบการอัจฉริยะในนิคมอุตสาหกรรม (Smart Industrial Estate and Smart Industrial Zone)