บล.บัวหลวง แนะกระจายความเสี่ยงช่วงตลาดผันผวน ผ่าน “กองทุนรวมผสม”
บล.บัวหลวง แนะจัดพอร์ตลงทุนหลัก 90% เน้น “กองทุนรวมผสม” ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของพอร์ต อีก 10% เน้นกองทุนได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ - ราคาพลังงานพุ่ง
นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายค้าตราสารการเงิน บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงนี้มีหลายปัจจัยความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนรวม
เช่น สงครามรัสเซียยูเครนที่กินเวลายาวนานกว่าที่คาดการณ์ ทำให้เกิดวิกฤติพลังงาน และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนให้เงินเฟ้อพุ่งทั่วโลก ล่าสุดเงินเฟ้อของไทยเดือนพ.ค. 2565 อยู่ที่ 7.1% สูงสุดในรอบ 13 ปี รายงาน BLS Top Funds
จึงแนะนำให้จัดพอร์ต ลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ โดยสัดส่วนลงทุนหลัก 90% ให้เน้นไปใน “กองทุนรวมผสม” ที่มีนโยบายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของพอร์ต
ส่วนที่เหลือให้ลงทุนในกองทุนที่อาจได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อพุ่ง หรือราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัดส่วน 10%
สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำ BCAP-GW25 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 25% ของพอร์ต, ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางแนะ BCAP-GW50 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 50% ของพอร์ต และให้เพิ่มการลงทุนในกองทุน KTILF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนล้อตามเงินเฟ้อ
และผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะ BCAP-GW7 กองทุนผสมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 75% ของพอร์ต และให้เพิ่มการลงทุนในกองทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน KT-ENERGY เพราะราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ผู้ลงทุนที่สนใจรับรายงาน BLS Top Funds อัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกแบบ Weekly พร้อมคำแนะนำ “กองทุนตัวท็อป” คุณภาพดี ผลงานเด่น กว่า 22 ประเภท จาก 18 บลจ.
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์