'ไมเคิล เซย์เลอร์' ชี้ “บิตคอยน์- Lightning Network” ทางออกของ DeFi
ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้บริหารของ MicroStrategy ชี้ “บิตคอยน์- Lightning Network” ทางออกของ DeFi เนื่องจากจะสามารถทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วมากขึ้น ภายใต้เครือข่ายบิตคอยน์
จากสถานการณ์ที่ผ่านมาโปรโตคอลขนาดใหญ่ทั้งสองแห่ง Terra และ Celcius ที่ต้องเผชิญกับปัญหารุนแรงภายใน 2 เดือนติด ที่เผชิญกับปัญหาจากระบบ DeFi
นายไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้บริหารของ MicroStrategy บริษัทที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในโลก ทวีตผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ส่วนตัวที่มีชื่อว่า @saylor แนะนำว่า “Bitcoin และ Lightning สามารถช่วยรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมได้”
นายเซย์เลอร์ ได้ให้ความหมายบิตคอยน์ของเขาไว้ว่า “พื้นฐานทางจริยธรรม เศรษฐกิจ และเทคนิคที่ดีสำหรับ DeFi” และกล่าวต่อว่าจะใช้โปรโตคอล Lightning Network และบิตคอยน์เพื่อสร้าง DeFi รุ่นต่อไป
ทั้งนี้นายเซย์เลอร์ ตอบกลับเรื่องราวของ Bloomberg เมื่อวันอังคาร โดยเน้นย้ำถึงข้อกังวลหลักมากมายในด้าน DeFi ซึ่ง Mahin Gupta ผู้ก่อตั้ง Liminal แพลตฟอร์มการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลบอกกับ Bloomberg ว่า: “สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Celsius จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรม”
เครือข่าย Celsius ได้ปิดการถอนเงินและธุรกรรมอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม หลังจากการล่มสลายของบล็อคเชน Terra ซึ่งดึงดูดนักลงทุนด้วยผลตอบแทนปีละประมาณ 20% โดยการล่มสลายของ Terra เกิดขึ้นเมื่อ สเตเบิลคอยน์สูญเสียการตรึง 1 ต่อ 1 กับดอลลาร์สหรัฐ และการหยุดการถอนของเซลเซียสก็ได้เพิ่มความสูญเสียแก่ตลาดคริปโทโดยรวม
บิตคอยน์ คืออนาคตของเงิน และโปรโตคอล Lightning จะช่วยในการขยายขนาดธุรกรรม “หากคุณจะชำระเงินและทำธุรกรรมด้วยความเร็วสูง คุณจะต้องมีเลเยอร์พื้นฐานที่สมเหตุสมผล มีจริยธรรม คุ้มราคา และเหมาะสมในทางเทคนิค นั่นคือสิ่งที่บิตคอยน์เป็น แต่จากนั้นธุรกรรมหลายพันล้านรายการจะเข้าสู่เลเยอร์ 2 เช่น Lightning”
จนถึงปัจจุบัน แอปพลิเคชั่น DeFi บนเครือข่ายบิตคอยน์ยังไม่ได้รับความนิยมในระดับเดียวกับที่มีในบล็อคเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum และ Solana อย่างไรก็ตาม บางคนที่ได้ศึกษา DeFi ก็เชื่อว่ามันสามารถนำไปใช้ได้อย่างยั่งยืนบนเครือข่าย Lightning โดยระบุว่า “เหรียญสเตเบิลคอยน์และเงินกู้ที่ค้ำประกันอย่างเต็มที่กับ BTC ของคุณนั้นมีประโยชน์”