อีคอมเมิร์ซบูมดันพื้นที่คลังสินค้าพุ่ง1.7ล้านตร.ม.ปี68

อีคอมเมิร์ซบูมดันพื้นที่คลังสินค้าพุ่ง1.7ล้านตร.ม.ปี68

REDPAPER ชี้ดีมานด์คลังสินค้าสมัยใหม่โตจากแรงหนุนอีคอมเมิร์ซบูมผลักดันพื้นที่คลังสินค้าในประเทศไทยขยายอีก 1.7 ล้าน ตร.ม. ในปี68

REDPAPER รายงานข้อมูลและเทรนด์ด้านอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับเจแอลแอล   ระบุว่า แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทยตั้งแต่ปี2561 จนถึงปัจจุบัน และเทรนด์สำคัญในอนาคต ว่า ดีมานด์สำหรับพื้นที่คลังสินค้าสมัยใหม่ในประเทศไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แม้ที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกจะเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 
    
    การเติบโตของภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการผลิตเพื่ออุตสาหกรรม อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ อาหารและเครื่องดื่ม เป็นปัจจัยสนับสนุนให้กลุ่มนักลงทุนบริษัทข้ามชาติ และผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ยุคใหม่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่คลังสินค้าระดับพรีเมียมในปี 2564 เติบโตถึง 42.1 %  ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรมเร่งพัฒนาโครงการเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว 

 ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยยังมีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งในใจกลางอาเซียน ซึ่งเปรียบเสมือนประตูเชื่อมสู่ทุกภูมิภาคในทวีปเอเชีย อีกทั้งยังมีความพร้อมในด้านทรัพยากรและเครือข่ายธุรกิจ  รวมถึงการมีแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก การมีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น รวมถึงโครงข่ายคมนาคมทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ ล้วนมีความสำคัญต่อการขนส่งและกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยสามารถตอบโจทย์ภาคธุรกิจโลจิสติกส์สมัยใหม่ได้ทุกด้าน 

 "โสภณ ราชรักษา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด   ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดคลังสินค้ามีการเติบโตสูงขึ้นอย่างมาก จากดีมานด์ของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้ประกอบการโลจิสติกส์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตก้าวกระโดด ความต้องการคลังสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้บริการจากผู้ประกอบการโลจิสติกส์ที่มีความชำนาญงานด้านการจัดเก็บและบริหารสินค้า รวมถึงกิจกรรมการขนส่งและกระจายสินค้า 

อีคอมเมิร์ซบูมดันพื้นที่คลังสินค้าพุ่ง1.7ล้านตร.ม.ปี68


จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ธุรกิจบริการคลังสินค้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ยกตัวอย่าง โลจิสติกส์ในจังหวัดสมุทรปราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง และฐานการผลิตที่สำคัญในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินงานบริการจัดส่งสินค้าในช่วงสุดท้าย (Last-mile Delivery) รวมถึงการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศโดยทางน้ำและอากาศ 

    ในด้านของอีอีซี ซึ่งครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งล้วนเป็นที่ตั้งสำคัญของแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางของภาคโลจิสติกส์ เพื่อการนำเข้าและส่งออก โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึก ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ ทำให้ดึงดูดผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีความต้องการใช้พื้นที่โลจิสติกส์คลังสินค้าอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของอุตสาหกรรมในพื้นที่ 
 

ส่วนภาคกลางจังหวัดอยุธยาเริ่มกลับมาเป็นหนึ่งในทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจโลจิสติกส์และการกระจายสินค้า สำหรับกลุ่มธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่ม FMCG (Fast Moving Consumer Goods ) แม้จะเคยผ่านเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ แต่ปัจจุบันพื้นที่นี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า เนื่องด้วยมีความเชื่อมั่นในมาตรฐานการพัฒนาโครงการและมาตรการป้องกันอุทกภัยที่ผู้พัฒนาโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค

อีคอมเมิร์ซบูมดันพื้นที่คลังสินค้าพุ่ง1.7ล้านตร.ม.ปี68

นอกจากนี้ ทางยกระดับบางปะอิน-นครราชสีมาที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2566 ยังช่วยส่งเสริมดีมานด์คลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในเส้นทางเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ประกอบการต่างเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการคมนาคมขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ

"เจเรมี โอซัลลิแวน" ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา เจแอลแอล กล่าวว่า ภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังคงแสดงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  คาดการณ์ว่าด้วยมูลค่ายอดขายรวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทุกๆ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จะทำให้มีความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้น 120,000 ตารางเมตร ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของตลาดคลังสินค้าระดับพรีเมียมเพิ่มเติมอีก 1.7 ล้านตารางเมตรในปี2568    ถือว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญของนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์