SCB ตั้งเป้าโกยพอร์ตลูกค้าคนรวย บนดิจิทัล แตะ 1.3 ล้านบาท ปี 67
“ไทยพาณิชย์” รุกธุรกิจเวลท์ ตั้งเป้าปี 67 “เอยูเอ็ม” แตะ 2 ล้านล้านบาท จากต้นปีนี้อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท พร้อม เปิด 4 กลยุทธ์เจาะกลุ่มคนรวยรุ่นใหม่บนดิจิทัล คาดสิ้นปีนี้กวาดฐานลูกค้า 1.3 ล้านราย
นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดผันผวนทางธนาคารไทยพาณิชย์ ให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้า และให้คำปรึกษาแบบครบวงจร
โดยเน้นในเรื่องการสรรหาผลิตภัณฑ์ และการจัดพอร์ต Asset Allocation ที่ตอบโจทย์ทุกช่วงภาวะของการลงทุน โดยจุดมุ่งหมายที่สำคัญจะเป็นการสร้างแบรนด์ที่เน้นเรื่องการให้คำปรึกษาด้านการทำ Wealth planning เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของลูกค้า
สำหรับธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ปีนี้ถือว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) จะเติบโตได้ราว 5% ซึ่งในต้นปี 2565 อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2567 จะอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท
“ปกติธุรกิจเวลท์เราจะมีอัตราการเติบโตอยู่แล้วเฉลี่ย 10-12% แต่ปีนี้เราจะเน้นทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และโปรดักต์ที่ครอบคลุม และช่องทางดิจิทัลสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตให้มากขึ้น”
โดยการเติบโตของธุรกิจเวลท์ที่สำคัญจะมาจาก 4 กลยุทธ์หลัก ด้านแรก คุณภาพของเจ้าหน้าที่สัมพันธ์หรือ RM ที่มีกว่า 900 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวประมาณ 80% จะมีใบอนุญาต (License) ทำให้ธนาคารสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านการลงทุนได้รอบด้าน และสามารถจัดสรรพอร์ตการลงทุนได้ในภาวะแตกต่างกันได้ดียิ่งขึ้น
ด้านที่สองคือ การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยปัจจุบันธนาคารมีแพลตฟอร์มที่สามารถเสนอโปรดักต์ได้หลากหลาย ไม่เฉพาะแต่ของธนาคารเท่านั้น แต่ยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งใน และต่างประเทศ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แม้ว่าตลาดจะเป็นลักษณะไซด์เวย์
เช่น ตราสารหนี้ (Structure Product) หรือ Private Asset สินทรัพย์นอกตลาด รวมถึงการลงทุนรูปแบบอื่น อาทิ Property Black Loan ที่มีการนำสินทรัพย์ที่ดินเปล่ามาลงทุน ซึ่งคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5-4% แต่สร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 4.5-5% ซึ่งมีส่วนต่างของผลตอบแทน เป็นต้น
ด้านที่สามคือ การรุกในส่วนของ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digitla Platform) โดยเฉพาะการจับลูกค้าคนรวยที่เป็นรุ่นใหม่ (young affluent หรือ Digital Investor) ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี แม้ตลาดมีความผันผวน แต่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนน้อยกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ธนาคารจะให้ความสำคัญมากขึ้น
ดังนั้น ธนาคารตั้งเป้า เติบโตลูกค้าในกลุ่มนี้ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 6.2 แสนราย และคาดว่า ภายในปี 2567 ลูกค้าคนรุ่นใหม่ จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านรายได้
โดยด้านที่สี่ การมีคุณภาพทีมงานที่ปรึกษาการลงทุน (Advisory) ซึ่งจะเป็นคลังสมองในการแนะนำทางด้านการลงทุน โดยจะมีการผนึกกำลังทั้งจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) และบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ (SCBAM) ซึ่งจะตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้า
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ประเมินกรอบ SET Index ในระดับคงเดิมที่ 1,550-1,750 จุด และประเมินเป้าหมายของดัชนีปีนี้อยู่ที่ 1,650 จุด ซึ่งเชื่อว่าดัชนีจะไม่ลดลงแรงเหมือนช่วงโควิดเนื่องจากผลกระทบต่อกำไรไม่แรงเท่าช่วงที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์