"ไทยประกันชีวิต" เคาะราคาขาย IPO 16 บาท/หุ้น มูลค่าระดมทุน 3.44 - 3.7 หมื่นล้านบาท

"ไทยประกันชีวิต" เคาะราคาขาย IPO 16 บาท/หุ้น   มูลค่าระดมทุน  3.44 - 3.7 หมื่นล้านบาท

"ไทยประกันชีวิต" กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 16 บาทต่อหุ้น จำนวน 2.38 พันล้านหุ้น มูลค่าระดมทุน 3.44 - 3.7 หมื่นล้านบาท เปิดขายนักลงทุนบุคคล 29 มิ.ย. - 6 ก.ค.65 

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่16 บาท ต่อหุ้น  จำนวนไม่เกิน 2,384.31 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.6% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO  และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินให้แก่ผู้ลงทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 161,630,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 7.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายทั้งหมดในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี จำนวนหุ้นที่เสนอขายสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchasers)

  โดยเสนอขายหุ้นสำหรับบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท และพนักงานบริษัท ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.2565 ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 สำหรับผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อในประเทศ นิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ และผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 11 ก.ค.2565 ถึงวันที่ 12 ก.ค.2565 และวันที่ 14 ก.ค.2565 )

 

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไม่เกิน 34,481.10 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกินในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน ) หรือไม่เกิน 37,067.18  ล้านบาท (รวมหุ้นส่วนเกินในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน )

โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาด 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2565-2567 เสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตร  5,400  ล้านบาท  ภายในปี 2567-2569 และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน และสำหรับเงินทุนหมุนเวียน และวัตถุประสงค์อื่นๆ  6,200 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป 

สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้แบ่งเป็น เสนอขายแก่  บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวนประมาณ    704,375,000  หุ้น หรือ 32.7% บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท จำนวนประมาณ 129,832,000 หุ้น หรือ 6.0% พนักงานของบริษัท จำนวนประมาณ 33,653,900 หุ้น  หรือ1.6% ผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อในประเทศ (ไม่รวมถึงผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในประเทศ) และนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ จำนวนประมาณ 64,424,500 หุ้น หรือ  3.0%

ผู้ลงทุนสถาบันที่เป็นผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในประเทศจำนวน    690,875,000 หุ้น หรือ 32.0% ผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนรวมประมาณ 531,908,500 หุ้น หรือ 24.7%  ผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อในต่างประเทศ (ไม่รวมผู้ที่เป็นผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในต่างประเทศ) จำนวนประมาณ    64,424,500  หุ้น หรือ  3.0% และ ผู้ลงทุนสถาบันที่เป็นผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในต่างประเทศจำนวน    467,484,000 หุ้น หรือ   21.7%

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์