เอเย่นต์ "รัสเซียเที่ยวไทย" จี้หาไฟลต์บินตรง หวั่น เวียดนาม ปาดชิงทัวริสต์
“ไม่มีเที่ยวบินตรง!” ยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการทำตลาด “รัสเซียเที่ยวไทย” นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 กระทั่งเผชิญอีกวิกฤติ “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” ปะทุซ้ำเติม! ส่งผลให้นักท่องเที่ยวรัสเซียชะลอการเดินทาง
ทั้งที่ตัวเลขกำลังฟื้นตัวดี หลังจากรัฐบาลไทยประกาศ “เปิดประเทศ 1 พ.ย.2564” รับนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 4 เดือน ตั้งแต่ 1 พ.ย.2564-28 ก.พ.2565 จำนวน 63,249 คน คิดเป็นรายได้ประมาณ 4,100 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-24 มิ.ย.2565 มี 65,541 คน ยังเหลือช่องว่างอีกกว่า 9 แสนคน! เพื่อกระโดดไปให้ถึงเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทย 1 ล้านคนภายในปีนี้!!
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.ได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว 6 บริษัทที่ทำตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย การประชุมมีผลบวกมาก บริษัทนำเที่ยวทุกรายต่างระบุว่านักท่องเที่ยวรัสเซียมีความต้องการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยสูงมาก โดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออกของรัสเซีย เช่น เมืองโนโวซีบีรสค์ (Novosibirsk) และเมืองวลาดิวอสตอค (Vladivostok) โดยสามารถหาลูกค้าได้อย่างน้อย 450,000 ที่นั่ง ในช่วงไฮซีซั่นปลายปีเดือน ต.ค.-ธ.ค.2565 และสนใจที่จะร่วมผลักดันปริมาณที่นั่งและเที่ยวบินให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน เม.ย.2566
“ททท.ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้าไทยถึง 1 ล้านคนในปีนี้ แต่ประเด็นปัญหาคือหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีเที่ยวบินตรงระหว่างไทยกับรัสเซีย”
ททท.จึงพยายามประสานให้มีเที่ยวบินตรงเกิดขึ้น โดยขณะนี้สายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” สนใจจะทำตลาดนี้ในรูปแบบ “เที่ยวบินเช่าเหมาลำ” (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ร่วมกับบริษัทนำเที่ยว โดยขอเวลาไปหาข้อมูลเรื่องการทำประกันภัยและการใช้เครื่องบินขนาดที่เหมาะสมกับเส้นทาง โดยจะคุยแยกกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวแต่ละราย และขออัปเดตความเป็นไปได้ในการบินภายในสัปดาห์หน้า
“ททท.พร้อมทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินและบริษัทนำเที่ยว รวมทั้งช่วยประสานการขออนุญาตและกระบวนการทางภาครัฐต่างๆ”
ด้าน สถิรพงศ์ ณ ตะกั่วทุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก โวยาจ จำกัด และอดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทั้ง 6 บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ที่ทำตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย ประกอบด้วย EXOTIC VOYAGE, PEGAS, ANEX, ODEON, SAYAMA และ TEZ มีความเห็นตรงกันว่าถ้าสามารถหา “เที่ยวบินตรง” จากรัสเซียมาไทย จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนมากกลับมาได้
ในทางกลับกัน หากหาเที่ยวบินตรงไม่ได้ ประกอบกับขณะนี้การบินไทยไม่ได้บินตรงเส้นทางนี้ จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียให้แก่ “เวียดนาม” แน่นอน! เพราะขณะนี้สายการบิน “เวียตเจ็ท” อยู่ระหว่างประสานบินตรงจากเวียดนามไปยัง 3 เมืองของรัสเซีย ได้แก่ โนโวซีบีรสค์ วลาดิวอสตอค และ ครัสโนยาสค์ (Krasnoyarsk) โดยยังอยู่ในขั้นตอนหาบริษัททำประกันภัยการบินที่ไม่ใช่บริษัทประกันของชาติตะวันตก
“เมื่อใดที่นักท่องเที่ยวรัสเซียหันไปเวียดนาม ไทยจะต้องเสียตลาดนี้ไปทั้งๆ ที่เป็นตลาดใหญ่มาก เพราะเวียดนามมีทะเลสวย อุ่นกว่าไทย มีความใส่ใจให้บริการเหมือนคนไทย ขณะที่ชาวรัสเซียมาไทยตอนนี้ต้องเดินทางด้วยสายการบินของตะวันออกกลาง เคยจ่ายค่าเครื่องบินไปกลับ 30,000-40,000 บาท กลายเป็นต้องจ่ายกว่า 100,000 บาท และจำนวนมากเมื่อต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ตะวันออกกลาง ก็ตัดสินใจเที่ยวที่นั่นไปเลย มาไม่ถึงไทย หรือเหลือมาไทยแค่ระดับพันคนต่อเดือน ทำให้เสียโอกาสในการฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก"
เมื่อเห็นกันอยู่แล้วว่านักท่องเที่ยวรัสเซียต้องการเดินทางมาไทย! จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายประสานหาเที่ยวบินตรงระหว่างไทย-รัสเซียให้ได้!! ไม่ว่าบริษัทใดก็ตามที่มีเครื่องบินขนาดใหญ่ บินระยะยาวได้ 12 ชั่วโมง สามารถทำเป็นชาร์เตอร์ไฟลต์ได้ทันที โดยสามารถเริ่มทำการตลาดได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาในเดือน ต.ค.-ธ.ค.
มีความต้องการแน่ๆ 450,000 ที่นั่ง และถ้าทำตลาดยาวไปถึงเดือน เม.ย.2566 จะได้ถึง 1 ล้านที่นั่ง!
ส่วนการหารือร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีความหวังว่าจะจัดหาเครื่องบินขนาดใหญ่ที่เคยทำการบินไปจีน แต่ขณะนี้ “จีน” ยังไม่เปิดให้บินได้ โดยกำลังพิจารณาให้นำมาบินไปรัสเซียในรูปแบบชาร์เตอร์ไฟลต์ไปก่อน