BANKING SECTOR จั่งซี้มันต้องถอน (28 มิ.ย. 65)

BANKING SECTOR จั่งซี้มันต้องถอน (28 มิ.ย. 65)

ธปท. เผยว่า กนง. มีความเห็นพ้องกันว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินอาจไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปและพร้อมตั้งเป้าที่จะถอนคันเร่งทางนโยบายการเงินดังกล่าวเพื่อป้องกันการคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น

ทำให้เรามองว่าการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจะสูงและเร็วกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ เรากังวลว่าการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้การฟื้นตัวสะดุดลง เราคงมุมมอง เป็นกลาง ต่อกลุ่มธนาคาร

 

เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นทะลุเป้าหมายนโยบาย

ธปท. ปรับตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปคาดการณ์สำหรับปี FY22-23 จะสูงขึ้นเป็น 6.2% และ 2.5% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ในรอบก่อนหน้านี้ที่ 4.9% และ 1.7% ตามลำดับ ธปท. มองว่าภาวะช็อคของราคาน้ำมันที่เกิดจากสงครามรัสเซีย - ยูเครน เป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมายนโยบายในปีนี้  อย่างไรก็ตามเงินเฟ้ออาจแตะระดับสูงสุดใน 3Q22 และค่อยๆ ลดลงกลับสู่กรอบนโยบาย อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ประเด็นเรื่องราคาน้ำมันที่อาจสูงขึ้นต่อและส่งผ่านไปยังโครงสร้างต้นทุนอื่นๆ แต่ยังมีเงินเฟ้อจากด้านอุปสงค์ที่อาจเริ่มเข้ามาในช่วงปลายปีนี้

 

 

การผ่อนคลายนโยบายการเงินแลดูไม่มีความจำเป็นแล้ว

เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วฟื้นตัวได้ดีเทียบกับเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา แต่การฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเหล่านี้รวมถึงไทยกำลังไล่ตามมา โดยธปท. คาดจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นใน 2H22 จึงปรับคาดการณ์ FY22 GDP ปีนี้ขึ้นจาก 3.2% เป็น 3.3% แต่ปรับ FY23 GDP ลงจาก 4.4% เป็น 4.2% ในกรณีฐานว่าไม่มีภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักในปีนี้จะมาจากการบริโภคภาคเอกชนหลังการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน ธปท. เชื่อว่าการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ไม่มีความจำเป็นแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หากยืดเยื้อวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อจากอุปสงค์ และอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสะดุดลง อย่างไรก็ตามการใช้มาตรการการเงินเข้มงวดจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยความเร็วและขนาดของการปรับดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ

 

คงน้ำหนักลงทุน “เป็นกลาง” แต่ให้มุมมองเชิงลบ

เรามองว่าธปท. อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps ในปีนี้เพื่อป้องกันความคาดหวังเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ขึ้นเร็วกว่าที่เรามองก่อนหน้านี้แต่ยังขึ้นมากกว่าที่เราคาดไว้ เงินเฟ้อที่สูงและยังเพิ่มขึ้นทำให้ธปท. มีแนวโน้มจะใช้นโยบายการเงินเข้มงวดรุนที่แรงขึ้น การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้อาจไม่ทำให้ NIM เพิ่มขึ้น แต่อาจนำไปสู่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เราคงน้ำหนักการลงทุน เป็นกลาง ต่อกลุ่มธนาคาร โดยมีมุมมองเชิงลบ เราเชื่อว่าความเสี่ยง-ผลตอบแทนข้างหน้าอาจยังไม่คุ้มค่านักหากพิจารณาปัจจัยกดดันทางมหภาคทั่วโลกที่ชะลอตัว