"เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป" รุกสยายปีก ปักธง 100 โรงแรมในไทยปี 68

ประกอบกับล่าสุด รัฐบาลไทยประกาศ “ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส” (Thailand Pass) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป มุ่งหน้าสู่การเปิดประเทศเต็มตัว!!

แคทรีน่า จีอานูกา ประธาน เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป (Radisson Hotel Group: RHG) เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป” ตั้งเป้าเปิดโรงแรมครบ 100 แห่งในไทยภายในปี 2568 จากปัจจุบันมีโรงแรมภายใต้เครือเรดิสันในไทยจำนวน 6 แห่ง โดยมีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ 4 แห่งในกรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 2 แห่งที่ภูเก็ตและพัทยา

ขณะที่ภาพรวมแผนขยายการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลก ปัจจุบันมีแบรนด์โรงแรมในเครือเรดิสัน 9 แบรนด์ ได้แก่ เรดิสัน คอลเลกชั่น, เรดิสัน บลู, เรดิสัน, เรดิสัน เรด, เรดิสัน อินดิวิดวลส์, พาร์ค พลาซ่า, พาร์ค อินน์ บาย เรดิสัน, คันทรี อินน์ แอนด์ สวีท บาย เรดิสัน และ Prizeotel ครอบคลุมโรงแรมระดับหรูหราจนถึงโรงแรมราคาประหยัด

ปัจจุบันเครือเรดิสันมีโรงแรมมากกว่า 400 แห่งในภูมิภาค “เอเชียแปซิฟิก” ที่เปิดให้บริการและอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1,700 แห่งภายในปี 2568 หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 400% หลังจากในช่วงการระบาดของโควิด-19 เครือเรดิสันสามารถขยายโรงแรมจาก 200 แห่งในเอเชียแปซิฟิกเมื่อปี 2561 เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 400 แห่งในปัจจุบัน

ส่วนโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอของเครือเรดิสัน มีรวมกว่า 2,000 แห่ง ทั้งที่เปิดให้บริการและอยู่ระหว่างดำเนินการ

“เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้ด้วยพื้นฐานที่มั่นคง ทั้งความแข็งแกร่งของแบรนด์โรงแรมในเครือ และการจับมือกับพันธมิตร โดยมีรูปแบบการขยายธุรกิจที่หลากหลายจากแรงผลักทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตแบบออร์แกนิก การร่วมทุน การควบรวมกิจการ รวมถึงการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในการบริหาร (Master License Agreements)”

แคทรีน่า กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากทั่วโลกมีมาตรการผ่อนปรนด้านการเดินทาง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะทางอากาศ บางเส้นทางบินจองที่นั่งยาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว ทางเครือเรดิสันจึงมีมุมมองเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

โดยข้อมูลจาก สมิธ ทราเวล รีเสิร์ช หรือ STR ได้รายงานตัวเลขอัตราการเข้าพักว่ากลับมามีแรงส่งสำคัญ! โรงแรมที่พักหลายแห่งกลับมามีอัตราการเข้าพักเทียบเท่าก่อนยุคโควิด-19 บางแห่งสูงกว่าด้วยซ้ำ เช่น โรงแรมในอินเดีย ทำให้เราค่อนข้างแปลกใจกับแนวโน้มการฟื้นตัว เพราะเดิมทีคาดว่าจะได้เห็นตัวเลขการฟื้นตัวของอัตราการเข้าพักดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ ในขณะที่อัตราราคาห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) เช่น ในซิดนีย์ ขณะนี้ก็สูงกว่าช่วงก่อนโควิด ส่วนในกรุงเทพฯมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 30% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ประมาณ 50% ในปัจจุบัน

เดวิด เหงียน กรรมการผู้จัดการ ด้านยุทธศาสตร์ความร่วมมือในภูมิภาคอินโดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า แนวโน้มของภาคการท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวสู่ระดับเดียวกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด โดยจากรายงานของ STR ระบุว่าตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติในปี 2568 หลังจากรัฐบาลไทยผ่อนปรนมาตรการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565

“ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับเครือเรดิสัน ตามแผนการขยายโรงแรมและรีสอร์ทในประเทศไทยเพิ่มเป็น 100 แห่งในปี 2568 จะรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากภูมิภาคนี้ โดยมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยความหลากหลายของสินค้าท่องเที่ยว”

สำหรับในระยะยาวนั้น การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจะมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของเครือเรดิสันและประเทศไทยในภาพรวม เนื่องจากก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนครองสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเมื่อปี 2562 เมื่อการท่องเที่ยวขาออกจากประเทศจีนกลับมา ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในจุดหมายแรกๆ ที่ได้รับประโยชน์

ทั้งนี้เครือเรดิสันมีแผนเปิดสำนักงานเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ประจำประเทศไทยขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับพันธมิตรทางธุรกิจชาวไทย